ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ และตนได้รายงานให้ที่ประชุม ครม. รับทราบตามที่ ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
“ก็เหมือนกันคุณก็รู้แล้วจะมาถามอะไรอีก ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ตอนนี้กำลังสอบอยู่ว่ามันเชื่อมอะไรใครบ้าง พยานหลักฐานเป็นอย่างไร เพราะมันมีหลายทางด้วยกัน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
เมื่อถามว่ามาจากทางไหนบ้าง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มาทางน้ำก็มี แต่เป็นเครือข่ายทางภาคใต้ ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง ส่วนวัตถุระเบิดก็จะต้องตรวจสอบแหล่งที่มา แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ จะมาถามอะไร รู้เพียงแค่มาจากหลายที่และมีการเตรียมการมา
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจ เพราะตอนนี้มีการร่วมมือกันทั้งหมด ทั้ง กอ.รมน. ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนทั้งด้านชีวิต และทรัพย์สิน ซึ่งเรื่องนี้ตนได้สั่งการไปหมดแล้ว
เมื่อถามว่า กลุ่มความไม่สงบในภาคใต้มีแนวโน้มที่จะขยายพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า คงไม่มีการขยายพื้นที่ แต่อาจจะมาเป็นงานๆไป และตอนนี้นอกเหนือจากพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วยังไม่มีการแจ้งว่าพบการก่อเหตุในพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตามขอให้ได้ซักรายละเอียดจากผู้ต้องหาก่อน
ไม่แนะนายกฯ ไม่รู้การเมืองป่วนเหตุระเบิดกรุง
ส่วนกรณีที่ ผบ.ทบ. ระบุว่า มีมาสเตอร์มายอยู่เบื้องหลังนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ต้องมีแน่นอน หากไม่มีจะเกิดเหตุขึ้นมาได้อย่างไร เมื่อถามต่อว่านายกรัฐมนตรีได้ให้คำแนะนำในกรณีนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำ เพราะตนดูเรื่องความมั่นคงมานานแล้ว เรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนกันต่อไป
เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ยังไม่มี และยังไม่รู้
เมื่อถามว่า วันนี้ยังมีกำลังใจดีอยู่หรือไม่ที่ทำงานเพียงตำแหน่งรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "โธ่..เอ้ย ตำแหน่งเดียวก็จะตายอยู่แล้ว"
นายกฯ เผยคดีระเบิดกรุงคืบหน้าหลายจุด
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดในกรุงเทพมหานครว่า ได้มีการรายงานตนให้ทราบในทุกๆวัน ซึ่งวันนี้ก็มีความคืบหน้าไปมาก แต่วันนี้ก็อยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวนอยู่ โดยสอบสวนไปแล้ว 9 ราย ซึ่งจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป เพื่อดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ด้วยกระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ต้องทำให้รอบคอบมีทั้งพยายานบุคคลและวัตถุพยาน โดยรัฐบาลจะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนที่ร่วมกันเป็นหูเป็นตา ซึ่งประชาชนถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยภาครัฐ
ส่วนการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 7 ส.ค. ตนดีใจที่ได้ลงพื้นที่ เพราะชาวบ้านวิตกกังวลในวันฮารีรายอที่กำลังมาถึงในวันที่ 11 ส.ค. นี้ ซึ่งในช่วงนี้ก็มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องเข้มงวดมากขึ้น แต่ประชาชนเองก็ต้องช่วยกันทำให้พื้นที่ปลอดภัย เราทะเลาะขัดแย้งต่อไปไม่ได้แล้ว พร้อมกันนี้ยอมรับว่าความปลอดภัยในพื้นที่นั้นดีขึ้นมาก เพราะประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาถือเป็นการป้องปรามระดับหนึ่ง ส่วนการพูดคุยสันติสุขนั้นก็ยังอยู่ในการพูดคุยกันต่อไป
โดยจับมือร่วมกันกับประเทศมุสลิมให้มีความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย ซึ่งทุกคนก็เข้าใจไปในทิศทางที่ดี และประเทศมหาอำนาจก็ยอมรับในการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องความไม่สงบในกรุงเทพฯ ได้รับการรายงานอย่างใกล้ชิด พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงสิ่งที่ดูแล และได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเห็นแล้วว่าสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้แล้ว 9 คน
"นายกฯ ไม่อยากตัดประเด็นใดๆออกไป อยากให้ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน ให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่ต้องชี้แจงให้ต่างชาติเข้าใจ แยกให้ออกระหว่างเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องกฎหมายให้ชัดเจน” นางนฤมล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง