ไม่พบผลการค้นหา
เอลิอุด คิปโชเก นักวิ่งมาราธอนชาวเคนยาเจ้าของสถิติโลกมาราธอน ทลายขีดจำกัดมนุษยชาติด้วยการวิ่งมาราธอนจบใน 2 ชั่วโมง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเชื่อว่าเป็นระยะเวลาที่มนุษย์ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้

วันที่ 12 ตุลาคม เอลิอุด คิปโชเก นักวิ่งมาราธอนวัย 34 ปี กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่วิ่งมาราธอน (42.195 กิโลเมตร) จบภายในเวลา 1 ชั่วโมง 59 นาที 40.2 วินาที

"ผมเป็นคนแรก และผมอยากสร้างแรงบันดาลใจให้ให้คนจำนวนมากว่ามนุษย์ทุกคนไม่มีขีดจำกัด" คิปโชเก กล่าว

คิปโชเก เป็นเจ้าของเหรียญโอลิมปิก 3 เหรียญ และเป็นผู้ทำลายสถิติโลกการวิ่งมาราธอนจบด้วยความเร็ว 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที ในการวิ่งเบอร์ลินมาราธอน ปี 2018 ทว่าการวิ่งครั้งนี้จะไม่ถูกบันทึกเป็นสถิติโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเป็นการวิ่งที่มการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างดี ไม่ใช่การวิ่งมาราธอนตามปกติที่มีผู้ร่วมแข่งขันด้วย

"การวิ่งที่เบอร์ลิน กับการวิ่งครั้งนี้ที่เวียนนานั้นเป็นคนละเรื่องกัน ที่เบอร์ลินเป็นเรื่องของการทำลายสถิติโลก ที่เวียนนาเป็นเรื่องของการสร้างประวัติศาสตร์ เหมือนการไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก" คิปโชเกกล่าว

afp - kipchoge

มาราธอนในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยบริษัทอุตสาหกรรมเคมี อินีออส (INEOS) ด้วยทุน 15 ล้านปอนด์ (ราว 573 ล้านบาท) ซึ่งเซอร์จิม แรตคลิฟ ผู้รวยที่สุดในอังกฤษเป็นเจ้าของ โดยมาธราธอนครั้งนี้มีการควบคุมปัจจัยต่างๆ ให้เหมาะสมกับคิปโชเกที่สุด โดยการวิ่งครั้งนี้คิปโชเกไม่ได้วิ่งแข่งกับใครนอกจากตัวเอง โดยมีนักวิ่งอีก 41 คนเป็นเพซเซ็ตเตอร์ (pacesetter) หรือนักวิ่งที่ทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการวิ่ง ด้วยการสลับกันลงวิ่งทีละ 5 คนนำหน้าคิปโชเก ช่วยกันลมและลดแรงต้านอากาศให้เขา และมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งนำหน้าอยู่ในระยะ 15 เมตร ด้วยความเร็วกิโลเมตรละ 2 นาที 50 วินาที เป็นมาตรวัดความเร็วรวมถึงแสดงเวลาที่ใช้ไปแล้วในการวิ่งเป็นหลักวินาที และยิงเลเซอร์กำหนดตำแหน่งนักวิ่งเพซเซตเตอร์ รวมถึงมีจักรยานส่งน้ำและเจลพลังงานให้ทุก 5 กิโลเมตร

ความช่วยเหลือเหล่านี้ ไม่ได้รับอนุญาตภายใต้กฎของสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (International Association of Athletics Federation: IAAF) จึงไม่อาจนับว่าเป็นการทำลายสถิติโลกอย่างเป็นทางการได้

afp - kipchoge
  • คิปโชเกวิ่งโดยมีนักวิ่งเพซเซ็ตเตอร์นำหน้าอยู่ 5 คน และตามหลัง 2 คน

นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมในการวิ่งยังถูกออกแบบมาอย่างดีให้เหมาะกับคิปโชเก โดยจัดที่ถนนในสวนพราเตอร์ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียซึ่งอุณหภูมิไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป เป็นทางราบมีระยะทางที่เป็นเนินเพียง 2.4 เมตร และ 90 เปอร์เซ็นต์ของระยะทางเป็นทางตรง พื้นที่ตั้งอยู่ในระดับเหมาะสม 540 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล และเขตเวลา (time zone) ก็ห่างกับเวลาที่ค่ายฝึกซ้อมของคิปโชเก ในหมู่บ้านคัปทะกัต (Kaptagat) ประเทศเคนยาเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้คิปโชเกไม่ต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมมากนัก

ก่อนหน้านี้คิปโชเกเคยลงวิ่งในลักษณะคล้ายคลึงกันนี้มาแล้วกับโครงการเบรกกิง2 (Breaking 2) โดยไนกี้ แบรนด์อุปกรณ์กีฬารายใหญ่ โดยในครั้งนั้นคิปโชเกอยู่ห่างการทำลายประวัติศาสตร์มนุษยชาติไปไม่ถึงนาที ด้วยการจบมาราธอนนั้นด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 25 วินาที เท่านั้น โดยไม่ถูกบันทึกเป็นสถิติโลกเช่นกัน เพราะไม่ใช่การวิ่งภายใต้สภาพแวดล้อมปกติ

อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่เชื่อกันว่าเวลา 2 ชั่วโมง คือกำแพงของการวิ่งมาราธอนที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ มาราธอนที่เวียนนาในครั้งนี้กับนับเป็นบทพิสูจน์การก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ที่พลิกโฉมมาราธอนไปตลอดกาล

แพทริก แซ็ง โค้ชของคิปโชเก กล่าวว่าคิปโชเกได้สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราท้าทายข้อจำกัดในชีวิต

"สถิติมีไว้ทำลาย ผมมั่นใจว่าต้องมีใครสักคนจะต้องอยากทำลายสถิตินี้ แต่ประวัติศาสตร์ก็ได้ถูกจารึกแล้ว"

ที่มา: Guardian / CNN / NYTimes

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: