ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลญี่ปุ่นมีคำสั่งลงโทษผู้ที่กักตุนและขายหน้ากากอนามัยเกินกำไร มีโทษทางอาญา สั่งจำคุก1ปี หรือปรับ 300,000 บาท หลังจากญี่ปุ่นขาดแคลนหน้ากากอนามัยในตลาด

10 มี.ค. รัฐบาลญี่ปุ่นมีคำสั่งประกาศลงโทษผู้ที่ขายหน้ากากอนามัยเกินกำไรว่าถือเป้นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุก 1 ปี และปรับเป็นเงิน 1,000,000 เยน หรือประมาณ 300,000 บาท หลังจากช่วงที่ผ่านมาญี่ปุ่นขาดแคลนหน้ากากอนามัยในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19ในประเทศ

รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวนี้ออกมาเพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าและนำมาขายเกินราคาในช่วงที่ประเทศกำลังขาดแคลนสินค้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. เป็นต้นไป

ทั้งการรับหน้ากากอนามัยมาขายนั้นสามารถทำได้หากมีการขายในราคาที่เท่ากัน หรือ ขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาเดิม ทางกระทรวงพาณิชย์ของญี่ปุ่นยังออกมากล่าวว่า มาตรการนี้ออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงการซื้อขายหน้ากากอนามัยได้ 

รัฐบาลญี่ปุ่นยังประกาศ 'งด' การประมูลหน้ากากออนไลน์ตั้งแต่ 14 มี.ค.เป็นต้นไป หลังจากขั้นตอนดังกล่าวทำให้ผู้ค้าปลีกไม่สามารถเข้าถึงสินค้าได้

นอกจากนี้นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังกล่าวว่า จะเพิ่มการผลิตหน้ากาอนามัยภายในประเทศให้ได้ 600 ล้านชิ้น โดยจะมุ่งแจกจ่ายให้กับสถานพยาบาลเป็นสำคัญก่อน         

ในช่วงที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย หลังจากที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่กันไปซื้อหน้ากาอนามัยมากักตุน หรือขายต่อในช่วงก่อนที่จะมีการระบาดเป็นวงกว้าง ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันหน้ากากอนามัยภายในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการและมีการนำมาขายในราคาที่สูง

วานนี้ (9 มี.ค.) สื่อญี่ปุ่นรายงานพบว่านายฮิโระยุกิ โมโรตะ สมาชิกสภาของเมืองชิซูโอกะ กักตุนสินหน้ากากอนามัยและนำมาขายในราคาที่สูงเกินควร ซึ่งพบว่าตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมานายโมโรตะขายหน้ากากอนามัยไปแล้วกว่า 2,000 ชิ้น เป็นเงิน 8.9ล้านเยน หรือประมาณ 2,686,000 บาท โดยมีการประมูลตกชุดละ 30,000 -170,000 เยน

หน้ากากอนามัย ญี่ปุ่น


ที่มา Japantimes / kyodo News