วันที่ 8 มี.ค. 2564 ที่พรรคเพื่อไทย วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานการประชุม พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงร่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ผ่านควาเห็นชอบของรัฐสภาในวาระที่หนึ่ง และตั้งคณะกรรมาธิการจนพิจารณาเสร็จแล้วเตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวาระที่สอง โดยระบุว่า คาดว่าในการพิจารณาในวาระที่สองจะเกิดขึ้นในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ หลังจากการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันว่าการออกเสียงประชามติต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสทั่วถึงและเที่ยงธรรมป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งได้มีการเสนอให้มีการออกเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมรวมถึงการออกเสียงทางไปรษณีย์ , การออกเสียงนอกราชอาณาจักร และนอกเขตได้ โดยข้อเสนอทั้งหมดคณะกรรมการเห็นชอบ ซึ่งคณะกรรมาการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ต้องไปร่างระเบียบการออกเสียงประชามติเพื่อให้เกิดความรัดกุมไม่ให้มีการทุจริตเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน

สำหรับบทลงโทษขอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องและมีการทุจริตเกิดขึ้นจะรุนแรงกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีปัญหาในการตีความได้กว้างและลึกเกินไปทำให้มีการ แจ้งข้อกล่าวหาแบบครอบจักรวาล เช่นก่อความวุ่นวายในการออกเสียงประชามติ 

ด้าน ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฝ่ายกฎหมาย ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการเสนอเพิ่มถ้อยคำจากเดิมที่มีเพียงคำว่าสุจริตและเที่ยงธรรม เพิ่มท้ายคำว่าควรจัดทำประชามติด้วยความเสรีและเสมอภาคเพราะการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องความเสมอภาค พร้อมเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง ภาคประชาชน เอกชน ตัวแทนกลุ่มต่างๆร่วมรณรงค์สร้างความเข้าใจให้ประชาชน ได้อย่างเต็มที่ โดยให้ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

พท.หวังศาล รธน.ชี้ร่างแก้ไข รธน.เป็นคุณ ยึดอำนาจสถาปนา รธน.เป็นของประชาชน

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตรียมมีคำวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่ หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในแนวทางที่เป็นคุณต่อผู้เสนอญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีทั้งร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ร่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และร่างที่ภาคประชาชนเสนอ ซึ่งมีหลักการเดียวกันในการแก้ไขมาตรา 256 และการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อยกร่างฉบับใหม่เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างเห็นว่ารัฐธรรมนูนฉบับปัจจุบันยังเป็นปัญหาและทางออกของประเทศจะต้องมีการยกร่างฉบับใหม่ 

โดยเชื่อว่าแนวทางการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้เดินทางผิดหรือออกนอกจากแนวทางของกฎหมาย ซึ่งร่างที่ผ่านการพิจารณาก็ได้ยึดหลักอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้ในปี 2555 เพราะหากผ่านการพิจารณาวาระ 3 ไปแล้วก็จะต้องนำร่างกฏหมายไปทำประชามติ โดยย้ำว่าไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาทางใดในวันที่ 11 มี.ค. นี้ ฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐสภาจะต้องเดินหน้าในการพิจารณาโหวตวาระ 3 ต่อไป 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เชื่อมั่นว่าสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ว. จะเห็นปัญหาทางการเมืองที่สุดเนื่องมาจากปัญหาของรัฐธรรมนูญนั้น ส.ว. จะโหวตผ่านในวาระที่ 3 เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ

ชง ป.ป.ช.- ศาล รธน.สอบ 7 รมต.ถูกซักฟอก

ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยหลัง การประชุมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย 7 รัฐมนตรี หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย โดย ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฎหมายร่างคำร้อง ซึ่งบางคนจะถูกยื่นตรวจสอบทั้ง 2 หน่วยงาน หากคำร้องคนใดเสร็จก่อนก็ยื่นก่อน เบื้องต้นในวันที่ 10 มี.ค. จะไปยื่นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ กับจุรินทร์ก่อน