ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จนถึงตอนนี้สามารถสรุปได้ว่ารัฐบาลจัดหาวัคซีนได้ล่าช้ากว่าประเทศอื่น ฉีดวัคซีนช้ากว่าประเทศอื่น แต่แทนที่รัฐบาลจะออกมายอมรับความผิดพลาดของตนเอง กลับออกมาแก้ตัวด้วยข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล ทั้งนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขพูดถึงกรอบเวลาการฉีดวัคซีนใหม่ที่เมื่อวันที่ 6 ก.พ. และทำให้เราทราบว่าตั้งแต่เดือน มิ.ย. ของปีนี้เป็นต้นไป รัฐบาลจะฉีดวัคซีนเดือนละ 5 ล้านเข็มให้กับคนไทย โดยมีเป้าหมายจะฉีดให้ได้ครอบคลุมประชากรจำนวน 50 ล้านคนซึ่งต้องใช้วัคซีน 100 ล้านเข็มจากเป้าหมายนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เวลาถึง 20 เดือน หรือจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อจะฉีดให้ได้ครบตามเป้าหมาย ซึ่งช้าเกินไป ประชาชนจะรอได้อย่างไร บุคลากรทางการแพทย์จะทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกนานขนาดนั้นได้อย่างไร
ธนาธรระบุว่า มีข้อเสนอถึงรัฐบาล 3 ประการ เพื่อจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้รวดเร็วกว่านี้ นำประเทศกลับสู่ความเป็นปกติได้เร็วกว่านี้ 1. เป้าหมายการฉีดวัคซีนเดือนละ 5 ล้านเข็ม น้อยเกินไปและช้าเกินไป ผมเข้าใจว่าเกิดจากการส่งมอบวัคซีนช้า รัฐบาลจึงต้องเร่งเจรจาหาผู้ผลิตที่สามารถส่งมอบได้เร็วกว่านี้โดยคำนึงถึงเรื่องราคาเป็นประเด็นรอง นายกรัฐมนตรีต้องนั่งสั่งการกำกับการเจรจาจัดหา และติดตามความคืบหน้าด้วยตนเองทุกวันเพื่อสนับสนุนการทำงานของข้าราชการและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักอยู่ แต่ติดขัดขั้นตอนทางราชการที่ล่าช้า
2. รัฐบาลต้องเริ่มออกแบบกระบวนการฉีดวัคซีนอย่างลงรายละเอียด หากเราต้องการฉีดให้ได้ 5 ล้านเข็มต่อเดือน หมายความว่าเราต้องฉีดให้ได้ 2,200 เข็มต่อจังหวัดต่อวัน ผมเชื่อว่าถ้าเราจัดหาวัคซีนได้มากกว่านี้ต่อเดือนและออกแบบบริหารการฉีดได้ดี เราสามารถฉีดได้มากกว่า 2,200 เข็มต่อวันต่อจังหวัด
"รัฐบาลต้องเริ่มกำหนดศูนย์ฉีดวัคซีนในแต่ละจังหวัดให้ชัดเจนว่าแต่ละจังหวัดมีกี่ศูนย์ที่ใดบ้าง หลังจากนั้นจึงออกแบบกระบวนการในแต่ละศูนย์ ว่ามีกี่สถานีฉีด แต่ละสถานีต้องใช้บุคคลากรเท่าใด กี่ผลัด เพื่อครอบคลุมทั้ง 7 วัน บุคลากรจะมาจากไหนและต้องเพิ่มทักษะอย่างไรบ้าง รัฐบาลต้องจัดเตรียมยานพาหนะที่จะใช้ในการขนส่งวัคซีนให้เพียงพอตลอดช่วงเวลาการฉีดวัคซีน หากจำเป็นต้องสร้าง ต่อเติมยานพาหนะพิเศษเพิ่มเติมเพื่อจัดเก็บและขนส่ง ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ รัฐบาลต้องออกแบบและสร้างระบบฐานข้อมูลในการเก็บข้อมูลการฉีดวัคซีนของประชาชนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอบทานกลับได้ว่าใครฉีดวัคซีนตัวใด วันที่เท่าไหร่ มาจากชุดการผลิตไหน"
3.รัฐบาลต้องเปลี่ยนท่าทีในการพูดเรื่องวัคซีนกับประชาชน คนจำนวนมากไม่อยากฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลที่ต่างกัน รัฐบาลต้องเลิกทำให้ประชาชนกลัววัคซีน บอกข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาเรื่องการแพ้วัคซีน ซึ่งอ้างอิงได้จากผลการทดสอบยาในระยะสาม เปิดเผยข้อมูลต่างๆอย่างรอบด้านเพื่อให้ประชาชนไว้วางใจ หากประชาชนไม่ยอมรับการฉีดวัคซีน ต่อให้จัดหาวัคซีนมาได้ก็ไม่มีประโยชน์
"เราไม่อาจยกการ์ดแบบนี้ต่อไปได้อีกเป็นปีๆ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องพาคนไทยออกจากอุโมงค์อันมืดมิดของยุคโควิดโดยเร็ว และอาวุธที่เราต้องการเร็วที่สุด ทั่วถึงที่สุด ก็คือวัคซีน หวังว่าข้อเสนอของผมจะได้รับการรับฟังจากรัฐบาล เพื่อที่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะได้กลับคืนสู่ชีวิตอันเป็นปกติโดยเร็ว" ธนาธร ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง