คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท.ร่วมกับเครือข่ายแรงงาน เครือข่ายผู้หญิง เครือข่ายเพศสภาพจัดงานวันสตรีสากล '8 มีนาคม' ภายใต้แนวคิด ‘ผู้หญิงต้องข้ามผ่านทุกวิกฤติ ต้องเข้าถึงสิทธิเพื่อความมั่นคง’ โดยเริ่มตั้งขบวนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 8:00 น.ก่อนเคลื่อนขบวนสู่ด้านตรงข้ามประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 9:30 น. เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้แรงงานหญิง
อาทิ เร่งดำเนินการทางนโยบายและกฎหมาย ปกป้องคุ้มครองและเยียวยาสิทธิของผู้หญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีตามหลักการกฎบัตรขององค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการประสานความร่วมมือกับนายจ้างผู้ประกอบการการทำธุรกิจต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ฉกฉวยสถานการณ์ Covid-19 ด้วยการเลิกจ้างลอยแพหรือเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติและแรงงานหญิง ซึ่งรวมไปถึงการเลิกจ้างแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์ด้วย
โดยระหว่างการเคลื่อนขบวนรวมถึงการปักหลักรอการประกาศเจตนารมณ์หน้าทำเนียบรัฐบาลได้มีการตัวแทนสลับกันขึ้นปราศรัยสะท้อนถึงปัญหาของผู้ใช้แรงงานและปัญหาของแรงงานหญิง รวมทั้งทวงถามข้อเรียกร้องของขบวนการแรงงานที่ผ่านมา ตลอดจนข้อเรียกร้องในวันสตรีสากล
โดยเนื้อหาการยื่นหนังสือ มาจากที่ คสรท.มีมติร่วมกันยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลเนื่องในวันสตรีสากลปี 2565 พร้อมกับติดตามข้อเสนอต่อรัฐบาลที่ยังไม่ได้ดำเนินการหรือไม่มีความคืบหน้ารวม 9 ข้อประกอบด้วย
1) รัฐต้องรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 183 ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิความเป็นมารดา
2) ให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ลาคลอดได้ 180 วัน และผู้ชายดูแลภรรยาคลอดบุตรได้ 30 วัน โดยได้รับค่าจ้างตามจริง 100% เเละเร่งรัดการจ่ายค่าจ้างวันลาคลอด 98 วันตามมติ ครม.เห็นชอบให้ครบถ้วน
3) รับรองอนุสัญญา ILO 190 ว่าด้วยการขจัดความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกแห่งการทำงาน โดยเฉพาะการเลิกจ้างหญิงตั้งครรภ์และการล่วงละเมิดทางเพศให้เป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้
4) รับรอง ILO 189 ว่าด้วย งานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้านให้ได้รับสิทธิประโยชน์และอนุสัญญา ILO 177 ว่าด้วย งานที่รับไปทำที่บ้านเพื่อให้แรงงานได้รับการคุ้มครองอย่างเคร่งครัดและค่าจ้างที่เป็นธรรม
5) รัฐต้องกำหนดมาตรการเพื่อขจัดการละเมิดสิทธิแรงงานทุกรูปแบบ รวมถึงหามาตรการป้องกันคุ้มครองและเยียวยาเพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงานและเข้าถึงสิทธิสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ตามหลักการดำเนินงาน "ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน" หรือ UNGP ปีที่รัฐบาลไทยให้สัตยาบันและยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
6) รัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า 0-6 ปีเดือนละ 600 บาท
7) รัฐต้องกำหนดสัดส่วนที่เท่ากันระหว่างชาย-หญิงและเพศสภาพ ในการตัดสินใจของคณะกรรมการทุกมิติ ทุกระดับเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม
8) รัฐต้องกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันหยุดตามประเพณี
9) รัฐต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นไปตามหลักการองค์การแรงงานระหว่างประเทศให้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
โดยใช้เวลาเคลื่อนขบวนประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล และตัวแทนประกาศเจตนารมณ์และข้อเรียกร้องทั้ง 9 ข้อ ในเวลาประมาณ 12.30 น.ก่อนสลายตัว