สำนักข่าวไทย รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงาน กกต. เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานประเภทบริหารระดับสูง และคำสั่งเรื่องมอบอำนาจของเลขาธิการ กกต. ให้รองเลขาธิการ กกต.และผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่แทน
โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่งทั้ง 2 ฉบับ ไปยังสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานครแล้ว โดยให้คำสั่งดังกล่าว มีผลนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป
ประเด็นที่น่าสนใจของคำสั่งทั้ง 2 ฉบับ คือการปรับย้าย นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต.ที่รับผิดชอบงานการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง แล้วเลื่อนตำแหน่ง นายไพบูลย์ เหล็กพรหม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ขึ้นดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กกต.รับผิดชอบงานด้านการมีส่วนร่วมฯ
โดยให้นายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการ กกต.ที่รับผิดชอบงานด้านการมีส่วนร่วมฯ ไปรับผิดชอบงานด้านบริหารการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา กกต. ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีความผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้ง ตั้งแต่การแบ่งเขตเลือกตั้ง การจัดส่งบัตรเลือกตั้งนิวซีแลนด์ไม่ทัน จนไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้ ความผิดพลาดในระบบการรายงานผลการนับคะแนน การรวมคะแนน การประกาศผลคะแนนการเลือกตั้ง หรือสูตรการคิดคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งภารกิจเหล่านี้ขณะนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของนายณัฏฐ์
การปรับย้ายครั้งนี้ ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ เจ้าหน้าที่ กกต. เนื่องจากเห็นว่า แม้ตำแหน่ง ผอ.สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จะมีชื่ออยู่ในระนาบเดียวกับตำแหน่งรองเลขาธิการ กกต. คือบริหารระดับสูง แต่ก็เป็นตำแหน่งเทียบเท่า ที่รู้กันว่ามีศักดิ์ต่ำกว่ารองเลขาธิการ กกต. โดยในอดีตที่เคยปฏิบัติหากมีการปรับย้ายรองเลขาธิการ กกต. จะเป็นการเลื่อนขึ้นตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานของสำนักงาน กกต. เมื่อรับทราบคำสั่งดังกล่าวที่ออกมา ต่างก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจนายณัฏฐ์ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะที่นายณัฏฐ์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ มีการโพสต์ว่า "หนังเศร้าแต่ฉันก็โอเคเพราะอยู่คนเดียว"
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า ปัญหาการเลือกตั้งไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่ยังรวมถึง คนร่างกติกา คสช. และมติกกต. ด้วย
เนื้อหาทั้งหมดระบุดังนี้
ปัญหาความสับสนวุ่นวายในการเลือกตั้งนั้น ความรับผิดชอบ คงไม่ได้อยู่ที่ รองเลขาธิการแต่ผู้เดียว
ตั้งแต่คนร่างกติกา ที่วุ่นวายสับสน คิดแต่จะสร้างความได้เปรียบ
การแทรกแซงกระบวนการแบ่งเขต ที่ใช้คำสั่งของ คสช. มาทำให้หน้าตาของเขตเลือกตั้ง ดูพิลึกพิลั่น ตามใจผู้มีอำนาจ
การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ขัดกับรัฐธรรมนูญและไม่สามารถสร้างการยอมรับจากประชาชน
มติ กกต.ที่เร่งรัดบางเรื่องกับคนบางคน พรรคบางพรรค จนดูว่าองค์กรขาดความเป็นอิสระ
คงเข้าใจผิดครับ หากคิดว่า ทุกอย่างเป็นปัญหาจากรองเลขาธิการ คนเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :