ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยรายชื่อ 9 ประเทศ ถูกจับตามองใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนสร้างความได้เปรียบทางการค้า ฟากไทยไม่ติดลิสต์ แต่นักวิเคราะห์ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเตือนยังมีความเสี่ยง สร้างแรงกดดันทางการค้าในอนาคต

ตามที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานกลางปีต่อสภาคองเกรสว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนในกลุ่มประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุถึง 9 ประเทศคู่ค้าหลักที่ยังอยู่ในสถานะ 'จับตามอง' (Monitoring List) ในเรื่องการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยน ประกอบด้วย จีน, เยอรมนี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และเวียดนาม 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แม้ไทยจะไม่ติดบัญชีประเทศที่ถูกจับตาจากสหรัฐฯ แต่ยังอาจเสี่ยงที่จะเผชิญแรงกดดันทางด้านการค้า แม้สถานการณ์นี้จะไม่กระทบต่อการค้าของไทยโดยตรง แต่การที่มีหลายประเทศในอาเซียนติดอยู่ในบัญชีที่ต้องจับตา เป็นสัญญาณว่าไทยก็มีความเสี่ยงที่จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในอนาคตจากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ใกล้เคียงกับเกณฑ์ที่ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกร��ทย จึงมองว่า ทางการสหรัฐฯ อาจส่งผ่านแรงกดดันทางการค้าผ่านการพิจารณาสิทธิจีเอสพี (สิทธิประโยชน์ทางภาษี) เท่านั้น แต่จะไม่ยกระดับไปสู่มาตรการกีดกันทางการค้ารูปแบบอื่น เพราะการผลิตและส่งออกของไทยไม่น่าจะขัดกับหลักเกณฑ์ใดๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งทางการไทยสามารถชี้แจงได้ 

นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าบางรายการของไทยไปสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณเร่งตัวขึ้น ก็เป็นผลจากการปรับห่วงโซ่การผลิตของนักลงทุนในระดับโลกเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ทางการไทยจำเป็นต้องเตรียมแผนหาตลาดใหม่ รวมทั้งผลักดันเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ฉบับต่างๆ ที่อยู่ในแผนให้เปิดเสรีได้สำเร็จ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการส่งออกและการลงทุนไทยในระยะยาว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ รอบครึ่งปี โดยที่ยังคงไม่มีการระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่า ประเทศใดมีพฤติกรรมเข้าข่ายบิดเบือนค่าเงิน (Currency Manipulator) 

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาให้มีความเข้มงวดขึ้น ซึ่งทำให้รายชื่อประเทศที่สหรัฐฯ ติดตามอย่างใกล้ชิด (Monitoring List) เพิ่มจำนวนขึ้น มาเป็น 9 ประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้น ไทยไม่ติดอยู่ใน Monitoring List ในรายงานฯ รอบนี้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า กรณีกระทรวงการคลังสหรัฐเผยแพร่รายงานประเทศคู่ค้า 9 แห่ง ถูกจับตามองในเรื่องการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนสร้างความได้เปรียบทางการค้า แต่ไม่มีชื่อของประเทศไทยนั้น ก็ยังไม่อาจไว้วางใจได้ และยังต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะสหรัฐฯ ได้ปรับเกณฑ์การพิจารณาขึ้นบัญชีประเทศที่บิดเบือนค่าเงินในหลายเกณฑ์ และมีการติดตามประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการแข่งขันการค้าโลกมีความเข้มข้นมากขึ้น 

"กรณีประเทศไทยไม่ติดในรายชื่อดังกล่าว ทำให้เห็นว่า ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาในการหารือร่วมกันระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีความเข้าใจกันดีว่าไทยไม่ได้แทรกแซงค่าเงิน เพื่อหวังการได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐ" นายวิรไท กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :