จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยปฏิเสธการถือธงนำและขอให้ทุกฝ่ายที่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญทำตามขั้นตอนกฎหมาย รวมถึงยังตั้งข้อสงสัยกับประชาชนที่เคลื่อนไหวณรงค์แก้ไขว่าเป็นกลุ่มไหน เป็นคนทั้งประเทศหรือไม่นั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความย้อนแย้งในตัวเองอย่างมาก มีปัญหาทั้งในเชิงหลักคิดและข้อเท็จจริง 3 ประการ คือ
1. พล.อ.ประยุทธ์ เองต่างหากที่ไม่ทำตามกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่เที่ยวบอกให้คนอื่นทำ ดังจะเห็นชัด การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ, การแถลงนโยบายโดยไม่ชี้แจงที่มาของเงิน และการทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ ล้วนผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น นี่คือสิ่งที่ย้อนแย้ง คือ บอกให้คนอื่นทำตามรัฐธรรมนูญ แต่ตนเองอยู่เหนือรัฐธรรมนูญได้
2.การที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญคนส่วนใหญ่เห็นด้วยไหม นี่คืออีกความย้อนแย้ง เพราะถ้าย้อนไปตอนทำรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ท่านได้ถามประชาชนไหม วันนั้นที่ท่านฉีกรัฐธรรมนูญนี่เป็นเรื่องตลก พอประชาชนรณรงค์จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ท่านกลับถามว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศเห็นด้วยหรือเปล่า และที่สำคัญก็เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์หลังยึดอำนาจด้วยว่า เตรียมการเรื่องรัฐประหาร 6 เดือน ซึ่งพอนับไปตอนนั้นสังคมไทยยังไม่มีเหตุการณ์ ยังไม่เดินไปสู่ทางตันด้วยซ้ำ หมายความว่าท่านเป็นคนวางแผนและมีส่วนร่วมกับกระบวนการที่ดูเหมือนทำให้ประเทศเป็นทางตันใช่หรือไม่
3.กล่าวได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนร่างเอง และวัตถุประสงค์รัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การสืบทอดอำนาจของ คสช. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาให้แก้ไขไม่ได้ในกระบวนการปกติ ดังนั้น ไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะบอกให้ประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่เขียนไว้ เพราะรู้ว่าถ้าเดินตามแก้ไขตามกระบวนการนั้นจะทำไม่สำเร็จ นี่คือรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อให้พวกเขาสืบทอดอำนาจได้ โดยไม่ต้องฟังเสียงประชาชน
"การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่เอาด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้น จึงอยากถามไปถึงพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคที่ชูนโยบายหาเสียงให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถผลักดันให้เรื่องนี้เข้าเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลได้ จะว่าอย่างไร จะมีท่าทีอย่างไรต่อไปอย่างไร เมื่อชัดเจนแล้วว่าผู้นำของฝ่ายรัฐบาลที่ท่านเข้าร่วมด้วยนั้น ไม่เอาด้วยกับการแก้ไข" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า อีกกรณีในการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ การเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้น ซึ่งบอกว่าการเลือกตั้งนี้จะนำมาซึ่งเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ถ้าไม่เข้าใจจะทำให้เกิดความวุ่นวาย เรื่องนี้ต้องบอกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการประชาชนได้ พี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ตนได้ไปพบปะ พูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความเดือดร้อน ปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ที่รัฐบาลไม่อาจแก้ไขให้ได้
ดังนั้น เขาจึงมีสิทธิ์เลือกให้การลงคะแนน จ.นครปฐม เขต 5 เป็นมติมหาชน เลือกที่จะลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ไว้วางใจผู้นำแบบนี้ ไม่ไว้วางใจรัฐบาลนี้ ผ่านเสียงของการลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 23 ตุลาคม นี่จะเป็นมติมหาชน โดยจะเริ่มที่ จ.นครปฐม เขต 5 เป็นที่แรก และจะลุกลามไปในทุกเขต ทุกจังหวัดที่มีการเลือกตั้งซ่อม