นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระองค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และ กองทุน กล่าวถึง ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีสมาชิกพรรค ส.ส.จำนวนมากเดินเกมเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญในพรรคนั้น ตนถือเป็นเรื่องภายใน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะไหวไม่ไหวตนไม่ขอเกี่ยว แต่ควรพึงระลึกเสมอว่าเป็นเงินภาษีของชาวบ้านไม่ใช่เงินส่วนตัวของใครหากนำไปใช้ไม่ถูกต้อง
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า เรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐไม่มีใครอยากยุ่ง แต่มี ส.ส.ในพรรค ส่งข้อมูลมาสาวไส้ให้ฝ่ายค้านฟังว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กำลังสร้างมุ้งที่ทำด้วยเงินของประชาชน โดยระบุว่า ส.ส.พปชร จำนวนไม่น้อยถูกเรียกไปเป่ากระหม่อมให้อยู่ในโอวาท โดยมีโครงการที่ใช้เงินกองทุนพลังงาน หลักสิบล้านต่อราย โดยให้ไปทำโครงการมาและนำไปลงพื้นที่ หากเป็นจริงตนในฐานะประธานกรรมาธิการตรวจสอบ กองทุนฯ จะทำหน้าที่ ตรวจสอบการใช้งบประมาณของกองทุนพลังงาน ที่ประชาชนโดนเรียกเก็บจากการซื้อพลังงานทุกประเภทเป็นเงินหลายล้านๆ บาท ฝ่ายค้านจะไม่ปล่อยให้มี "คุณแอบ" เอาไปละเลงเล่นได้
"ผมขอฝากไปยังบอร์ด 20 คน ต้องรับผิดชอบหากมีการซิกแซก โดยเฉพาะ เลขาธิการกองทุนฯ หากขยิบตา ไม่กระแอมกระไอปล่อยผ่าน ทำเป็นมองไม่เห็นรับรองได้เลย ประชาชนจะเป็นผู้พิพากษาและฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น ซึ่งสัปดาห์นี้ ตนจะทำการซีทีสแกน กองทุนพลังงาน ครั้งใหญ่ จะเรียกเอกสารสถานะเงินกองทุน และ การนำไปใช้จ่ายต่างๆ ในรอบหลายปีมานี้มาตรวจสอบ หากพบสิ่งผิดปรกติ มีไอ้โม่งไป จัดสันปันส่วนรับรอง ฝ่านค้านกัดไม่ปล่อยแน่"
จี้ "ม.ร.ว.จัตุมงคล" เร่งจ่ายเงิน "ว่างงาน"
นายจิรายุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โปรยยาหอมว่าจะเพิ่มเงินว่างงานให้กับผู้ประกันตนในสถานการณ์โควิด-19 จากร้อยละ62 ให้เป็นร้อยละ 75 นั้น ตนเห็นว่า การคืนเงินบางส่วนที่เป็นของลูกจ้างเองนั้น ควรคืนอย่างน้อยร้อยละ80 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือนทันที และเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดอย่าดึงเวลา เพราะความเดือดร้อน ความเป็นความตายของประชาชนมีทุกวินาที อย่ามาทอดเวลา เพราะเป็นเงินของประชาชน วันอังคารนี้ (19พ.ค.2563) หากรัฐมนตรี ยังคลานต้วมเตี้ยม แบบเต่า ไม่เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกันตน ตนจะเป็นแกนนำไปเรียกร้อง เงินประกันสังคมให้ผู้ประกันตนถึงทำเนียบรัฐบาลแน่นอน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือถึงเลขาฯกองทุนประกันสังคม ให้ชี้แจงถึงสถานการณ์เงินและการนำเงินไปลงทุนต่างๆที่ประชาชนควรทราบ โดยกองทุนชี้แจง ณ วันที่ 8 พ.ค.2563 ว่ามีเงินที่ใช้ได้ตอนนี้เพียงแค่ประมาณ 16,000 ล้านบาทเท่านั้น ส่วน 2.2ล้านล้านบาทนั้น ถูกนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและอื่นๆร้อยละ 82 หรือประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท ส่วนอีกร้อยละ 18 ไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่มีความเสี่ยง อาทิอสังหาริมทรัพย์ ทองคำประมาณ 80,000 ล้านบาททั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งทำให้เห็นว่าวันนี้รัฐมนตรีแรงงานต้องตัดสินใจในฐานะผู้นำสูงสุด เพื่อผู้ประกันตน ที่กำลังเดือดร้อนสูงสุด อย่า ปล่อยให้ล่วงเลยจนเกินเวลา วันนี้จะหมดโควิดอยู่แล้ว ไม่ควรช้าเป็นเต่าเช่นนี้ นายจิรายุกล่าว