พิธีสาบานตนของ 'โจ ไบเดน' ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 20 ม.ค. นี้ จะเต็มไปด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าพิธีสาบานคนครั้งไหนๆ ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยมีรายงานความเคลื่อนไหวช่วง 48 ชั่วโมงก่อนถึงวันสาบานตนว่า ทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศจะอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดด้านความปลอดภัยสูงสุด 

50 รัฐเฝ้าระวังสูงสุด

ผู้ว่าการหลายมลรัฐทั่วประเทศ อาทิ รัฐออเรกอน, มิชิแกน, นิวแฮมป์เชียร์, เท็กซัส โอไฮโอ เวอร์จิเนีย และนิวยอร์ก สั่งระดมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ อารักขาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัฐโดยเฉพาะหน่วยงานราชการในท้องถิ่น ท่ามกลางความวิตกกังวลของหลายฝ่าย จากการที่สำนักสอบสวนกลางหรือ FBI ออกคำเตือนว่าอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลายช่วงพิธีสาบานตน

หลายรัฐระดมรถหุ้มเกราะ ตั้งเครื่องกีดขวาง พร้อมจัดวางกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อ 17 ม.ค. มีรายงานว่าที่ด้านนอกของที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐเท็กซัส, ออเรกอน, โอไฮโอ และมิชิแกน มีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ออกมาชุมนุมประปราย จำนวนนี้เป็นสมาชิกของขบวนการ Boogaloo Bois ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการพกพาอาวุธปืน และต่อต้านผลการเลือกตั้งของโจ ไบเดน ออกมาร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายทรัมป์ที่ติดอาวุธครบมือ ซึ่งชุมนุมอยู่ด้านหน้าที่ทำการของมลรัฐท้องถิ่น

เช่นเดียวกับรัฐมิชิแกน ผู้ประท้วงราว 30 คน ได้รวมตัวกันที่ด้านนอกของที่ทำการรัฐในเมืองแลนซิง บางคนถือปืนไรเฟิลไว้ด้วย ผู้ชุมนุมรายหนึ่งเผยว่า พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อก่อเหตุรุนแรง และหวังว่าจะไม่มีใครทำเช่นนั้น

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า บรรดากลุ่มที่มีแนวคิดขวาจัด และผู้สนับสนุนทรัมป์ใช้ช่องทางเครือข่ายออนไลน์ ปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมจับอาวุธแสดงพลังต่อต้านในวันที่ 17 ม.ค. นี้ แต่กลุ่มผู้หนุนทรัมป์บางส่วนเตือนให้สมาชิกอย่าเข้าร่วม เนื่องจากมีการวางกำลังความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และอาจกลายเป็นกับดักของฝ่ายตำรวจ

หวั่นเหตุร้ายจากฝีมือคนใน

ในกรุงวอชิงตันดี.ซี. มีการระดมกำลังพิทักษ์มาตุภูมิราว 25,000 นาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงระหว่างพิธี โดยพล.อ. แดเนียล โฮแคนสัน ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เปิดเผยว่า ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักสอบสวนกลางหรือ FBI และหน่วยตำรวจลับอารักขาประธานาธิบดี (Secret Service) ในการ'ตรวจสอบ'เจ้าหน้าที่พิทักษ์มาตุภูมิทุกนาย ที่ได้รับมอบหมายภารกิจรักษาความปลอดภัยในกรุงวอชิงตัน เนื่องจากหวั่นว่า บุคคลที่ได้รับมอบหมายในพิธีสาบานตน อาจนำมาซึ่งเหตุจลาจลและเป็นภัยคุกคามต่อผู้เข้าร่วมพิธี

หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าได้ควบคุมชายรายหนี่งพร้อมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนราว 500 นัด โดยมีใบอนุญาตที่ไม่ใช่ของหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งต่อมาได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง โดยชายดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ไม่มีเจตนาเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวง แต่ด้วยการจราจรที่ถูกปิดในหลายเส้นทาง ทำให้ต้องเข้าสู่ใจกลาเมืองหลวง ส่วนอาวุธที่ขนมานั้นเป็นของบริษัทเอกชนด้านรักษาความปลอดภัยที่เขาทำงานอยู่เท่านั้น

สำหรับใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อันเป็นที่ตั้งของอาคารรัฐสภา สถานที่ซึ่งจัดพิธีดังกล่าว ได้มีการสั่งปิดพื้นที่ย่านเนชั่นแนล มอลล์ ซึ่งปกติจะเปิดให้ผู้คนมาร่วมพิธีสาบานตน พร้อมกับมีกำลังอารักขาสูงสุด โดยแม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นก่อนหน้าพิธีแต่ ไรอัน แมคคคาร์ธีย์ รัฐมนตรีทบวงกองทัพบกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าไว้วางใจได้ จนกว่าการสาบานตนจะผ่านพ้นไป 

หลายฝ่ายคาดว่า ในวันที่ 20 ม.ค. อาจมีกลุุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์เคลื่อนไหวต่อต้านพิธีมากขึ้น

ด้านทีมงานของนายไบเดนได้ขอให้บรรดาผู้สนับสนุนและชาวอเมริกันทุกคน งดมาเข้าร่วมพิธีที่กรุงวอชิงตัน เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 โดยขอให้รับชมการถ่ายทอดสดพิธีอยู่ที่บ้านแทน