ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ย้ำสื่อยังไม่ยุบสภา ติดตามน้ำท่วมเกาะติดพายุ 2 ลูกอยู่ เผยคนริมน้ำเจ้าพระยาพอใจการเยียวยา วอนเห็นใจรัฐบาลด้วยถ้าพายุซัดเข้าไทยเกินรับมือได้ ขอให้เรื่องอื่นไว้ก่อน

วันที่ 14 ต.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีเพื่อให้เกิดมั่นใจกระแสข่าวการยุบสภาว่าจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนใช่หรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า"ไม่มีๆ ก็ผมพูดย้ำไปหลายครั้งแล้วไงว่าไม่มี"

ส่วนกระแสการต่อต้านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ภายในพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ ส่ายหัวและไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวแต่อย่างใด ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงสถานการณ์การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ขณะนี้มีพายุเข้ามาเพิ่มอีก 2 ลูกว่า ขณะนี้ได้ติดตามอยู่จากสถานการณ์ความเสียหายน่าจะน้อยลง เราได้มีมาตรการเกี่ยวกับการเยียวยา ที่เร่งสำรวจไว้ ทั้งทางดาวเทียมและสำรวจในพื้นที่จริง และในหลายพื้นที่จำเป็นที่ต้องเยียวยาทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ที่อยู่ติดกับทางระบายน้ำธรรมชาติ แม่น้ำคูคลองต่างๆ เมื่อฝนตกลงมามากเกินปริมาณระบายได้ตามปกติ ก็ค่อนข้างจะมีปัญหา

"เท่าที่ผมไปตรวจเยี่ยม ประชาชนที่อยู่ตามริมน้ำเจ้าพระยา ก็มีความพอใจกับการเยียวยาของรัฐบาล เพราะเขาเผชิญเหตุทุกปีรู้ว่าสถานการณ์หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือหลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งรัฐบาลจะดูแลความเป็นอยู่อย่างไรให้ดีขึ้น ถ้าหากพูดถึงความมั่นใจ ดูจากสถิติการระบายน้ำ การพร่องน้ำ มีเครื่องไม้เครื่องมือจำนวนมากในขณะนี้ในการระบายน้ำไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก นี่คือความชัดเจนของรัฐบาล ปัจจุบัน ตั้งแต่สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เดินหน้าเรื่องดังกล่าวนี้มา เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้วที่ผ่านมา ซึ่งผมไม่ขอเอ่ยชื่อ"

ส่วนกรณีที่มีพายุเข้า เกินการรับได้ต้องเห็นใจรัฐบาลด้วย แต่พยายามจะดูแลอย่างเต็มที่ วันนี้ต้องเร่งรัดในการท่องเที่ยว เพราะเป็นการประกาศไปแล้ว ต้องช่วยกันทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคธุรกิจ เอกชน ซึ่งจะต้องร่วมกันเตรียมการ เพื่อให้เกิดผลดีทางเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ นี่คือสิ่งที่เราประกาศไปแล้ว เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเถอะ ขอเร่งแก้ไขเรื่องน้ำ โควิด แก้ปัญหาเรื่องการเปิดประเทศ การฉีดวัคซีน

ส่วนกรณีที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลพักชำระหนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่ากำลังให้พิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ ต้องดูระเบียบของกระทรวงการคลังด้วย ซึ่งต้องเห็นใจกันบ้าง ทุกเรื่องรัฐบาลสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุด

นายกฯ ลุยอุบลราชธานี 15 ต.ค. นี้ ตรวจบริหารจัดการน้ำแจกถุงยังชีพ

ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการโครงการพลังงานทดแทน และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบโคก หนอง นา ณ วัดป่าศรีแสงธรรม ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมนมัสการพระปัญญาวชิรโมลี และเยี่ยมชมระบบสมาร์ทกริดศรีแสงธรรม ERC Sandbox และการจัดการศึกษาแบบไตรสิกขา (เน้นการพึ่งพาตนเอง) ของโรงเรียนศรีแสงธรรม

จากนั้น ตรวจเยี่ยมการดำเนินการโครงการพลังงานทดแทน ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบโคก หนอง นา และพบปะเครือข่ายโคก หนอง นา ของวัดป่าศรีแสงธรรม และจิตอาสาพัฒนาชุมชน พร้อมร่วมกิจกรรมปลูกป่าเพอร์มาคัลเจอร์ ทำหลุม ปลูกป่า ห่มดิน ให้ปุ๋ยแห้ง ปุ๋ยน้ำ อีกทั้ง ยังได้เยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ “คนติดดิน” การสร้างบ้านดินด้วยเทคนิคเอิร์ธแบก” และฐานการเรียนรู้ “คนมีไฟ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ควบคุมระบบการเปิด-ปิด ด้วยระบบ IOT เพื่อรดน้ำต้นไม้เป็นสมาร์ทฟาร์มในโคก หนอง นา” นอกจากนี้ ยังมีโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง โดยจะทำการปลูกต้นไม้รอบศาลาพระราชทาน และเยี่ยมชมแปลงนา กล้าต้นเดียว ฐานคนรักษ์แม่โพสพอีกด้วย 

ต่อจากนั้น เวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากวัดป่าศรีแสงธรรม โดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเขื่อนสิรินธร อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำของ จ.อุบลราชธานี และการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้า โดยใช้นวัตกรรม “โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดกับพลังน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” พร้อมรับฟังรายงานการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมการบรรเทาสาธารณภัยและการฟื้นฟูผู้ประสบภัยในพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ณ ศาลาประชาวาริน พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 78 ครัวเรือน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

“นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ทุกครั้งเพื่อดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งจะได้ติดตามทั้งการต้องรับมือกับทั้งสถานการณ์โควิด -19 และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ขณะนี้ ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องไปแล้วทั้งหมด 8 จังหวัด อาทิ สมุทรปราการ ชลบุรี เพชรบุรี ชัยนาท สุโขทัย ชัยภูมิ นนทบุรี นครศรีธรรมราช และในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค. 64) จะนำคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนคมปาซุ เพื่อติดตามเตรียมแผนป้องกันและมาตรการต่าง ๆ สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.จันทบุรี นายกรัฐมนตรีกำชับให้ส่วนราชการในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือ อพยพประชาชนในพื้นที่ โดยหากขาดเหลือสิ่งใดให้ทางจังหวัดประสานแจ้งส่วนกลางเข้ามาทันที” ธนกร กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง