พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ กรณีการจับกุมนักกิจกรรมทางการเมือง โดยระบุว่าตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่รัฐประหาร 2557 ได้เกิดกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการอันเป็นการคุกคามต่อประชาชนผู้แสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกทางการเมืองเพื่อต่อต้านคณะรัฐประหารและรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหารจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจของคณะรัฐประหารหรือตรากฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน การควบคุมตัวโดยมิชอบ การติดตามไปยังที่อยู่อาศัยหรือสถาบันการศึกษา การข่มขู่คนในครอบครัว การใช้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารสร้างความเกลียดชัง และโดยการแจ้งความดำเนินคดี
เหล่านี้เป็นเหตุให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล “หยุดคุกคามประชาชน” พร้อมกับเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และยุบสภา แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งว่า ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้แสดงท่าทีว่าพร้อมที่จะรับฟังข้อเรียกร้องและความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษา ทว่าในวันนี้ (7 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเข้าจับกุมตัว อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และ ภาณุพงศ์ จาดนอก นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยไม่มีการออกหมายเรียกมาก่อน นอกจากนี้ยังอาจจะมีการออกหมายจับนักศึกษาและนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหลายสิบคนจากกรณีการชุมนุมที่ผ่านมา
พรรคก้าวไกลมีจุดยืนสนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการออกทางการเมืองโดยสงบของประชาชน เราเห็นว่าการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาและประชาชนในปัจจุบันมีต้นเหตุมาจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาล การใช้อำนาจและกฎหมายอย่างฉ้อฉลไม่เป็นธรรม รวมถึงรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ดังนั้น การจับกุมดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมจึงไม่ใช่ทางออกของปัญหาการเมืองในปัจจุบัน แต่จะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งจนนำไปสู่จุดที่ยากจะหาทางออกให้กับสังคมได้
ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการใช้อำนาจรัฐคุกคามรวมถึงการดำเนินคดีต่อประชาชนผู้แสดงความคิดเห็นและชุมนุมทางการเมืองโดยสงบทันที แล้วหาทางออกทางการเมืองด้วยการเปิดทางให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อเปลี่ยนผ่านทางการเมืองโดยสันติ ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพและอำนาจสูงสุดของประชาชน
'เพื่อไทย' ย้ำไม่งัดกฎหมายเอาผิดผู้ชุมนุม บี้นายกฯ เคารพสิทธิประชาชน
ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วถึงการชุมนุมเป็นสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องที่ขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และหยุดคุกคามประชาชนของผู้ชุมนุมดังกล่าว เป็นข้อเรียกร้องที่ชอบตามรัฐธรรมนูญและประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การชุมนุมดังกล่าวจึงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ รัฐจึงมีหน้าที่และควรปฏิบัติดังนี้ โดยเคารพและคุ้มครองการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชน รัฐจึงมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสุขภาพของผู้ชุมนุมและประชาชน แต่จะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการชุมนุมอันเป็นสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งรัฐจะต้องไม่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดําเนินคดีกับผู้ชุมนุมทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อการชุมนุมที่ชอบตามรัฐธรรมนูญ หยุดการคุกคามทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าจะเป็นการกระทำต่อผู้ชุมนุมโดยตรงหรือต่อครอบครัวของผู้ชุมนุม รวมถึงงดเว้นการออกข้อกำหนดใดๆ ที่มีผลต่อการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจนเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น
น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า บ่ายวันที่ 7 ส.ค. เจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าจับกุมแกนนำชุมนุมด้วยข้อหาครอบจักรวาลว่าด้วยการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ดังนั้น พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อให้ตระหนักว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานของรัฐต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม โดยคำนึงถึงหลักเมตตาธรรมต่อผู้ชุมนุมที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง