ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ชี้ 'โทนี่' พูดถึงถือเป็นคำสั่งสอน ขอโทษ 'แพทย์ชนบท' ปม 'ศุภชัย' ประกาศเปิดศึก ย้ำเจตนารมณ์ ‘ภูมิใจไทย’ ดันนโยบาย กยศ. ตั้งแต่หาเสียงปี 2562 เดินหน้าปลดดอกเบี้ยเป็น 0% แนะรัฐบาลลงทุนกับเยาวชนคุ้มกว่า

วันที่ 31 ส.ค. 2565 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กว่า 20 คน ร่วมกันแถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา พร้อมย้ำนโยบายพรรคภูมิใจไทยนำเสนอกับประชาชนไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เน้นเรื่องกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 4 ข้อ คือ 

1. ปลดภาระผู้ค้ำประกัน 

2. ขยายเวลาชำระเป็น 10 ปี 

3. ปลดภาระดอกเบี้ย 

4. ยกเลิกค่าปรับในกรณีผิดนัดชำระหนี้

อนุทิน กล่าวว่า ล่าสุด กยศ. ยกเลิกปลดภาระหนี้ค้ำประกัน ให้ผู้กู้ยืมรับผิดชอบเอง ให้เวลา 10 ปีในการชำระเงินต้น แต่พรรคภูมิใจไทย เสนอในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กยศ. ฉบับแก้ไข เป็น 15 ปี ยกเลิกค่าปรับผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งกรรมาธิการฯ จากทุกพรรคการเมืองดำเนินการแล้ว เหลือเพียงปลอดดอกเบี้ย จากร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 0.25 

อย่างไรก็ตาม นโยบายพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่ช่วงหาเสียงปี 2562 เราเชื่อว่ารัฐบาลควรมีหน้าที่สนับสนุนการศึกษาให้กับประชาชน โดยไม่แสวงหารายได้ใด ๆ กยศ. เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมและตามความประสงค์ของผู้เรียน เราเห็นว่าไม่ควรมีการคิดดอกเบี้ย หากทุกฝ่ายเห็นด้วยก็จะเหลือเพียง ‘ผู้ยืม’ ไม่ใช่ ‘ผู้กู้ยืม’ ซึ่งจะเป็นศักดิ์ศรีของผู้ประสงค์จะเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้วย

อนุทิน เผยว่า วิรัช พันธุมะผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กรรมาธิการฯ จะแปรญัตติ จากร้อยละ 2 เป็นไม่มีดอกเบี้ย แม้กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากจะยืนยันเป็นร้อยละ 0.25 พรรคภูมิใจไทยก็ยืนยันอยู่ว่าจะให้เป็นร้อยละ 0 ไม่มีดอกเบี้ย

"เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่เขาจ่ายให้รัฐนั่นแหละคือการคืนเงินต้น เผลอๆ อาจจะมากกว่าดอกเบี้ยที่เราจะได้จาก 4 ปี ที่เราคิดจากเขาด้วยซ้ำ นี่คือเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย หนี้ไม่มีสูญ มันจะกลับเข้ามาเป็นเงินที่ต้องจ่ายให้รัฐในรูปแบบของภาษี" อนุทิน กล่าว

อนุทิน กล่าวย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยได้มีเจตนารมณ์ทำเป็นนโยบายไว้ และพยายามต่อสู้ในประเด็นนี้มาเพื่อเยาวชนของประเทศให้มากที่สุด ด้วยความเชื่อว่ารัฐบาลควรมีหน้าที่สนับสนุนการศึกษาให้กับประชาชนโดยเฉพาะเยาวชน โดยไม่แสวงหารายได้ใดๆ

“ทลายทุกข้อจำกัด ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เยาวชนของชาติก็คือประชาชนที่รัฐจะต้องพึ่งพาเขาต่อไปในอนาคต นี่คือเจตนารมณ์สำคัญ ไม่ว่าสภาจะลงมติอย่างไรเป็นเอกสิทธิ์ของผู้แทน แต่ในความเป็นผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทย ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า จะลงมติไม่ให้มีการ คิดดอกเบี้ยในร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไข ของ กยศ.” อนุทิน กล่าว


ชี้ 'โทนี่' พูดถึงถือเป็นคำสั่งสอน

อนุทิน กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ CARE Talk : "ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่...แล้วไงต่อ?" เมื่อวัน ที่ 30 ส.ค. มีเนื้อหาตอนหนึ่งพาดพิงถึง อนุทิน ว่าเชื่อถือไม่ได้ ที่ตอนแรกยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจ แต่กลับสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี

ซึ่ง อนุทิน ตอบว่า "วิพากษ์วิจารณ์อะไร ท่านชมต่างหาก อย่างผมนี่ ถ้ารุ่นใหญ่อย่างนี้เอ่ยชื่อ ผมดีใจตายเลย ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาผมนะ ผมพึ่งพามาตลอด ได้เป็นรัฐมนตรีเพราะท่านนี่แหละ ฉะนั้นไม่ต้องมาถามหรอก ผู้ใหญ่พูดถึงก็ถือเป็นคำสั่งสอน ก็ต้องมาดูตัวเราเองว่าเป็นไปตามที่เขาพูดไหม อะไรที่ท่านได้เตือนมาเราต้องไปดูว่า ถ้าเราทำตามหรือดัดแปลงวิถีชีวิตของเรา และมันดีขึ้น เราก็ทำ"

อนุทิน ยังกล่าวต่อว่า ตนยังคิดวันดีๆ ในอดีต และคิดถึงบุญคุณที่ ทักษิณ เคยมีให้ เชื่อว่าหากไม่มีเรื่องการเมือง ท่านก็คงยังเอ็นดูตนอยู่เหมือนเดิม พร้อมกล่าวว่า โลกนี้คือละคร ต่อกระแสที่สมัยหน้าจะมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ให้การเลือกของประชาชนเป็นคำตอบของทุกอย่าง

เมื่อถามถึงกรณีที่สมัยหน้าจะมี 5 พรรคการเมือง ที่ยังมีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ อนุทิน กล่าวว่า ตนสนใจอย่างเดียวขอให้พรรคภูมิใจไทยเหลืออยู่ ขอให้เหลือเป็นหนึ่งในกี่พรรคก็ตามแต่ สำหรับการเสนอชื่อนายกฯ คนนอก อนุทิน กล่าวว่า ขอให้ถึงเวลานั้นก่อน เรายังคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนไหน ตนยังต้องทำหน้าที่รัฐมนตรีและ ส.ส. ไปก่อน


มองยุบสภารักษาการยาวเป็นไปไม่ได้

อนุทิน กล่าวถึงข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการยุบสภา โดยระบุว่า ต้องดูวัตรปฏิบัติของทั้ง ส.ส. และหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ล้วนทยอยลงพื้นที่ แสดงว่าทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ผ่านมา 3 ปีแล้ว ผู้ที่ช่ำชองในสนามการเมืองก็ต้องรู้ว่ามีความพร้อม ถ้าไม่มีความพร้อมก็จะเหนื่อย

เมื่อถามว่ามีความเตรียมการหรือไม่ที่หากมีการยุบสภาจะเปิดโอกาสให้รักษาการได้เป็นระยะเวลายาวจนถึงการประชุมเอเปก อนุทิน ตอบทันทีว่า "เป็นไปไม่ได้หรอก เวลายุบสภาแล้ว สภาพของรัฐบาลก็เหมือนเป็ดง่อยนะ และต้องมีการตรวจสอบ การทวงให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ยุบสภาแล้วรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน ทุกอย่างระบุไว้หมดแล้ว ดังนั้น อย่าไปคิดฉากทัศน์อะไรที่อยู่นอกเหนือกฏหมานกำหนด"

อนุทิน กล่าวต่อไปว่า หากเลือกตั้งไม่ได้ภายใน 60 วัน ถือเป็นเรื่องใหญ่ และต้องมีผู้รับผิดชอบ แต่คนนั้นไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมืองแน่นอน เพราะถ้ายุบสภาและหัวหน้าพรรคการเมืองก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ถ้ายุบสภาก็คือยุบสภา ไม่คาบเกี่ยวกับการประชุมเอเปกหรืออะไรทั้งสิ้น 

"ถ้ายุบสภาแล้วต้องไปรับแขกบ้านแขกเมือง ก็ต้องสงสารผู้นำ ใครเขาจะอยากมาคุยกับเรา อย่าไปมองเขามองเรา เวลาเราไปเจอคนที่เขากำลังจะออกไปแล้ว รักษาการอยู่ด้วย แล้วเราจะไปได้ผลอะไรจากการเจรจา แต่ถ้าต้องยุบก็คือยุบ ยุบแล้วสิ่งที่ทุกคนควรทำคือจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีรัฐบาล เท่านั้นเอง อย่าไปโยงอะไรเยอะแยะ" อนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่ากรอบเวลาที่มีแนวโน้มจะยุบสภายังเป็นราวช่วงเดือน ธ.ค. อยู่หรือไม่ อนุทิน ย้ำว่า ว่ากันตามตรง ตนไม่เคยคิดถึงเรื่องการยุบสภา เพราะตนยุบไม่ได้ ผู้ที่ยุบได้มีเพียงคนเดียวตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อเราควบคุมไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด เมื่อไหร่เมื่อนั้น พร้อมลงไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ขยันลงพื้นที่ เสนอนโยบายให้ประชาชนเชื่อมั่น มีแค่นี้เอง รัฐธรรมนูญตีกรอบไปให้เราเดินแล้ว เราออกนอกกรอบไม่ได้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินตามกฎหมาย พร้อมสำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากผู้สื่อข่าวถามถึงกรอบเวลา ทุกคนก็มีกรอบเวลาเป็นของตัวเอง


ขอโทษ 'ชมรมแพทย์ชนบท' แทน 'ศุภชัย'

อนุทิน กล่าวชี้แจงกรณี ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ภท. แถลงประกาศสงครามจะเปิดศึกกับ ชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งจะดำเนินคดีทุกคดีโดยอ้างเหตุถูกโจมตีให้เสียหายบ่อยๆครั้ง นั้น ว่า พูดคำนี้ได้ยังไง พรรคภูมิใจไทยจะไปรบกับใคร แต่ต้องทำเรื่องดีๆให้บ้านเมือง ถ้าเป็นจริงเดี๋ยวตนจะไปตักเตือน และหากจริงก็ขอโทษชมรมแพทย์ชนบทด้วย 

"ถ้ามีการพูดอย่างนั้นจริง ก็ถือว่าไม่ได้พูด เพราะไม่ใช่หัวหน้าพรรค หัวหน้าพรรคไม่มีวันพูดอย่างนี้เป็นอันขาด"

เมื่อถามว่า ต้องทำความเข้าใจกับ ส.ส.ศุภชัย หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ถ้าพูดในนามส่วนตัว เขาพูดในนามพรรคไม่ได้ ถ้าพูดในนามพรรคต้องมีมติเป็นฉันทานุมัติพรรค ซึ่งคิดว่าไม่ใช่คงเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า พร้อมย้ำว่าให้ยึดถือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คนนี้ไม่มีการทำสงครามกับใครทั้งสิ้น พรรคการเมืองไม่มีสิทธิไปทำสงครามหรือไปรบกับใคร พร้อมย้ำว่าถ้าลูกพรรคพูดจริงก็ขออภัยด้วย

ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้พรรคฯ ถอดตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล สืบเนื่องจากกรณี ส.ส.พลังประชารัฐ สนับสนุนให้หัวหน้าพรรคยึดโควต้า ปชป. ภท.กังวลหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายรัฐบาลและสภา เรากังวลเรื่องของเราซึ่งตอนนี้กังวลแล้ว พรรคภูมิใจไทยไม่มีประกาศสงครามกับใครเป็นอันขาดเรื่องตัวเองก็เยอะแยะไปหมดตอนนี้พรรคใครพรรคมันก่อน

ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวอธิบายว่า ศุภชัย ได้แถลงประเด็นดังกล่าวหลังจากที่ตนแถลง อนุทิน กล่าวย้ำว่า เคลียร์ให้ด้วยไม่มี พรรคภูมิใจไทยอยู่ตรงนี้ (พร้อมใช้มือขวา ชี้ไปที่หน้าอก)