เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 2565 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) ระบุผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘วิเคราะห์พายุการเมืองไทยหลัง 8 ปีประยุทธ์’ โดยช่วงแรก โทนี่ กล่าวถึง สภาพการณ์การเมืองของประเทศเลบานอนที่มีความขัดแย้งกันเรื่องศาสนา เพราะใช้ศาสนาเป็นแกนหลักในการบริหารงาน จึงไม่อยากให้ประเทศไทยต้องมีความขัดแย้งใดๆ เพราะความขัดแย้งทำให้ประเทศเสื่อมเสียลง และหากว่าเราไม่ขัดแย้งกัน ทหารจะไม่ออกมาเพ่นพ่านบริหารประเทศ

จากนั้น โทนี่ ได้กล่าวถึงวาทะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันเดียวกันนี้ (16 ส.ค. 2565) ว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค วันนี้ลองถามตัวเองว่าวิธีการบริหารเป็นแบบไหน ไม่ใช่มาฟังคำสอนพระพุทธเจ้า 

เหตุเกิดที่ไหนต้องไปดู ต้นทุนของราคาไฟฟ้าจริงๆ มันเท่าไหร่ และควรจะช่วยผู้มีรายได้น้อยอย่างไร ไม่ต้องมานั่งเทศน์ให้ประชาชนฟัง ถ้าทุกข์ใหญ่จริงๆ ของประเทศ คือทุกข์ที่มีท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) เป็นนายกรัฐมนตรี 

“ปัญหาคือ ผู้บริหารเข้าใจว่าขยันแล้ว แต่ไม่มีประสิทธิภาพ ระบบราชการกลายเป็นรัฐราชการที่ให้ประชาชนวิ่งไปขอใช้บริการ ไม่เต็มใจบริการ และมีคอร์รัปชันทุกระดับ วันนี้บ้านเราระบบพัง ภาคเอกชนอ่อนแอเป็นส่วนใหญ่ แข่งขันกับต่างประเทศไม่ได้ ส่วนธนาคารเริ่มเข่าอ่อน วันนี้เราต้องกลับมาดูของเราให้ดี” โทนี่ กล่าว 

โทนี่ ยัน ไม่มี ‘ดีลลับ’ จับมือ ‘บิ๊กป้อม’ ปิดฉากสูตร 500 

โทนี่ ระบุว่า มีหมอปัดเศษคนหนึ่ง (นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่) ไปบอกว่า ‘ทักษิณ’ จับมือกับ ‘ป้อม’ (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) แต่บังเอิญว่าพรรคพลังประชารัฐอยากได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 และพรรคเพื่อไทยเห็นว่าสูตรหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และถูกต้องตามหลักการเลือกตั้งมาตั้งแต่ต้น มันเลยดูเหมือนรวมพลัง แต่ไม่ว่าจะใช้สูตรไหนก็ตาม ท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นคนตัดสิน 

ส่วนเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส.ส. ไม่เข้าสภา ไม่ทำหน้าที่เพื่อประชาชนนั้น ให้ไปสังเกตดูว่าคนที่พูดส่วนใหญ่เป็นคนที่อยากได้ 500 ทั้งนั้น เพราะจะได้ปัดเศษใช้เครื่องคิดเลขที่ไฟดับตอนดึก 

“แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังยืนยันว่า ไม่มีดีลลับ ไม่รู้จะดีลทำไม ดีลกับผมไม่ได้ประโยชน์ ผมและป้อมไม่ได้คุยกัน ไม่รู้ป้อมจำชื่อได้ไหม มันไม่เหมือนวันวานที่หวานอยู่” โทนี่ กล่าว 

พรรคเบี้ยหัวแตกดันชื่อ ‘ประยุทธ์’ เป็นนายกฯ

โทนี่ วิเคราะห์ว่า เมื่อนั่งดูการเมืองทุกวันนี้แล้ว การแยกตั้งพรรคการเมือง เราจะมีพรรคเบี้ยหัวแตกเยอะ แต่อย่าลืมว่า ทุกพรรคมีสิทธิเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเสนอแล้วจะเข้าการพิจารณาได้หรือไม่ จำนวน ส.ส. ต้องไม่น้อยกว่า 25 คน พรรคที่ตั้งใหม่ตนอ่านแล้วมองว่า ต่ำกว่า 25 คนทั้งหมด ดูเหมือนจะเหลือแค่ไม่เกิน 5 พรรคที่มีสิทธิเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี และมีสิทธิเข้ารับการพิจารณา เพราะจำนวน ส.ส. เกิน 25 คน 

พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เสนอชื่อแน่นอน แต่ไม่มั่นใจว่าจะถึง 25 คนหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่า พรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมกันในฝ่ายประชาธิปไตย ฝั่งเผด็จการรวมกันในฝั่งเผด็จการ ดูว่าจะมีพรรคข้ามฟากน้อยมาก แต่คิดว่ามีข้ามฟากแน่นอนคือ พรรคชาติไทยพัฒนา

โทนี่ กล่าวว่า หากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยรวมกันได้ 300 กว่าที่นั่ง แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ตั้งรัฐบาล และเอา ส.ว. มายก จะทำงานอย่างไร ทำงานได้ไหม เมื่อเสอนนโยบายเสร็จก็ล้มเลย ในที่สุดต้องยอมรับความจริงว่า ต้องฟังเสียงประชาชน ถ้าประชาชนเลือกฝั่งประชาธิปไตยถล่มทลาย ก็ต้องยอมรับว่ามันเปลี่ยนข้าง 

โทนี่ เสริมว่า จริงๆ แล้วการเมืองต้องฟังเสียงประชาชน ประชาชนต้องการคำตอบของชีวิตเขา พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี ไม่มีคำตอบอะไรเลย มีแต่ปัญหาให้ชีิวิตเขา สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี นโยบาย ‘เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส’ แต่วันนี้ ‘ลดรายได้ เพิ่มรายจ่าย ไม่มีโอกาส’ คนก็ทนไม่ไหว วันนี้สงสารชาวบ้านจริงๆ มันต้องคิดหาทางบรรเทาทุกข์อย่างไร ไม่ใช่รอแจกบัตรคนจน 16 ล้านคน 

“การช่วยเป็นสิ่งที่ดี แต่จะช่วยอย่างไร เงินที่กู้มาต้องสร้างงานให้กับประชาชน ไม่ใช่แจกแล้วแจกไม่ทั่วถึง ความตั้งใจมี ขยันมี แต่ทำไม่เป็น ไม่เข้าใจปัญหาจริงๆ ไม่เข้าใจเหตุแห่งปัญหาจริงๆ” โทนี่ กล่าว 

จับยุทธศาสตร์ ‘พรรคการเมือง’ ชิงพื้นที่รายภูมิภาค

วันนี้ภาคใต้เหมือนฐานแตก ประชาธิปัตย์ต้องไล่เก็บพื้นที่ตัวเอง แต่ว่าขณะเดียวกัน พรรคที่ต้องยอมรับว่าระยะหลังถูกซื้อเยอะคือ พรรคประชาชาติ เพราะยึดฐานอยู่สามจังหวัด ส่วนทางอันดามันเมื่อก่อนเป็นของประชาธิปัตย์ แต่วันนี้ทางด้านภูมิใจไทยก็อยากจะตี เพราะภูมิใจไทยเตรียมตีอีสานเต็มที่ แต่ตียาก เพราะเพื่อไทยแข็งแรง จึงมาบุกภาคกลาง และภาคใต้เพราะมันมีช่องว่างการยึดครองของพรรคใดพรรคหนึ่งที่ไม่แข็งแรงพอ 

แต่อีสาน กับภาคเหนือตอนบนเพื่อไทยแข็งแรงอยู่แล้ว แม้ว่า ภูมิใจไทย กับพลังประชารัฐจะพยายามเจาะพื้นที่นั้น แต่ต้องบอกว่า ได้เจาะ แต่เจาะไม่ได้ ส่วนภาคใต้พลังประชารัฐมีทีมช่วยทำงานอยู่แต่ตอนหลังมาอาจจะขัดแย้งกัน แต่ต้องยอมรับว่า พรรคพลังประชารัฐกระสานซ่านเซ็นอยู่ และคงจะกระจายอยู่ที่บรรดาหัวทีม เช่น สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่พยายามยึดเพชรบูรณ์ และกลุ่มของสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในทางตะวันออก 

ลั่น ‘แลนด์สไลด์’ ไม่ไกลเกินฝัน

โทนี่ กล่าวว่า สมมติว่ามีคนใช้สิทธิเลือกตั้ง 35 ล้านเสียง เสียงหนึ่งที่จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คือ 350,000 ซึ่งการที่พรรคเล็กจะทำได้คะแนนเท่านี้นั้นไม่ง่ายเลย เมื่อก่อนคนมองว่า 

ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่า ฝั่งประชาธิปไตยน่าจะได้เยอะมาก หากดูการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาที่ลำปางจะพบว่า พรรคเสรีรวมไทยชนะขาด และการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2563 ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยแพ้ไป 30,000 กว่าคะแนน แต่ครั้งนี้กลับมาชนะได้ถึงแสนกว่าคะแนน 

ฉะนั้นคิดว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป เป็นกระแสที่ว่า ฝั่งประชาธิปไตยโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่กำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างวันนี้ (16 ส.ค.) ที่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสานทั้ง 93 คน ก็มีความคึกคักเป็นอย่างมาก และมีกระแสตอบรับจากสื่อต่างๆ ได้ดี เมื่อก่อนคนมองว่า  ‘แลนด์สไลด์’ เป็นสิ่งที่โอ้อวด แต่วันนี้คนในพรรคเพื่อไทยเองก็พูดกันว่ายังมีของที่ยังปล่อยไม่หมด และคงมีความชัดเจนมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

วาทกรรม “หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ รัฐประหารมาแน่” แนะจิตสำนึกทหารรุ่นใหม่ ไม่เข้าใจมิติทางเศรษฐกิจ-เทคโนโลยี

โทนี่ ระบุว่า ตนคิดว่า วันนี้ไม่เหมือนวันก่อน วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ระบบโซเชียลมีเดีย บวกกับกระแสคนรุ่นใหม่มันไม่เอื้ออำนวยให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร มันทำได้ยากมากขึ้น ไม่ใช่อยู่ๆ เอาปืน เอารถถังมาตั้งเต็มถนน แล้วบอกว่าจะปฏิวัติรัฐประหาร คิดว่า อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ จิตสำนึกของทหารรุ่นใหม่ที่ต้องคิดว่า บ้านเมืองบอบช้ำมานานแล้ว ทหารต้องยอมรับว่า ไม่ได้อยู่ในขีดความสามารถของประเทศที่ซึ่งประเด็นทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีมันไปเร็ว เพราะทหารชีวิตของเขาถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ ไม่สามารถมองโลกได้กว้าง ถ้ามาบริหารประเทศก็เจ๊งอีก 

โทนี่ กล่าวอีกว่า นักเรียนเตรียมทหารที่สอบเข้ามาหัวดีทุกคน แต่เมื่อโตมาแล้ว มันมีมิติเดียว คนข้างนอกมีหลายมิติกว่า ทหารจะไม่เข้าใจเรื่องราวโลกที่เกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งมิติมันเยอะ และมันยากกว่าเดิม ในปัจจุบันเขาหากินกันในโลกสมัยใหม่ที่เจริญแล้ว และเขาหากิน 2 ขา คือขาอนาล็อก และขาดิจิทัล แต่บ้านเราขาอนาล็อก ยังตามเขาไม่ทัน และขาดิจิทัลก็ยังไม่ได้เตรียมตัวหากิน และถ้าไม่ทันโลกประชาชนจะลำบาก กำลังซื้อในประเทศตกลงเรื่อยๆ ต่อไปเราต้องกลายเป้นประเทศจำกัดจำเขี่ยในตัวเอง วันนี้เด็กรุ่นใหม่ อยากรู้อะไร เขารู้ในทันที เขาคงไม่ยอมให้มีรัฐบาลโง่ๆ อีกแล้ว 

“เพื่อไทยมีจิตวิญญาณของการต่อสู้ซึ่งผมเป็นคนถ่ายวัฒนธรรมจากยุคไทยรักไทย เขาทำเต็มที่ให้ประชาชน โดนอีกกี่รอบก็ไม่กลัว พรรคเพื่อไทยเตรียมสู้ทุกรูปแบบ อย่างสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สิ่งที่ถูกต้องคือ 100 ถ้ามันออกมาเป็น 500 เขาก็เตรียม หากย้อนไปบัตรใบเดียวเขาก็เตรียมแต่ละดอก และหนีไม่พ้นแลนด์สไลด์ เพราะพรรคนี้เป็นพรรคสู้ สู้เพื่อให้ประชาชนได้ภูมิใจในประเทศตัวเอง” โทนี่ กล่าว 

อัดตั้งธง รธน.ห้ามเกิน 8ปี คนร่างมองเห็นแต่หน้า ‘ทักษิณ’

โทนี่ ให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า ที่มีคำว่า 8 ปี เพราะการร่างรัฐธรรมนูญหลังการปฏิวัติรัฐประหาร ผู้ร่างจะมองเห็นหน้าตนตลอด จะทำอย่างไรกับตนตรงนั้นตรงนี้ ตนยังเคยพูดเล่นๆ เลยว่า วันหลังถ้าจะสกัดกั้น ก็ตรวจดีเอ็นเอตนเลยว่า ห้ามเล่นการเมือง สรุปแล้วคือ ไม่อยากให้อยู่นาน แม้ว่าประชาชนจะนิยมอย่างไรแต่ 8 ปีมึงต้องเลิกนะ 

แต่เมื่อวันนี้ 8 ปี ประชาชนไม่นิยม และยังไม่ยอมเลิก มันก็ขัดต่อจริยธรรม มและขัดต่อสามัญสำนึก ที่ เพราะตอนนั้นที่ปฏิวัติรัฐประหารไม่คิดว่าจะอยู่เกิน 8 ปี แต่พออยู่เกินมันชักสนุก จึงเอาหลักการเทคนิคมาหาช่องทาง วันนี้ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความอย่างไร ศาลก็เสื่อม นายกรัฐมนตรีก็เสื่อมขาดความน่าเชื่อถือ 

“ท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) อาจจะกลัวว่า 8 ปีเร็วเกินไป เดี๋ยวมีคนมาเช็คบิลกู บอกเลยว่า อย่าไปกลัว ท่านก็บอกว่าท่านทำตามกฎหมาย วันนี้สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง 8 ปี ท่านพอไปเลย ไม่ต้องตีความให้เสียเวลา และไม่ให้ศาลเสียไปด้วย โดยหลักการแล้วมันควรจะพอ ทุกอย่างเล่นตามกฎ แม้เข้ามาผิดกติกา แต่ออกตามกติกามันดูเท่ห์กว่าเยอะ ” โทนี่ กล่าว 

โทนี่ เสริมว่า แม้ พล.อ.ประวิตร จะหลุดปากมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะอยู่ได้อีก 2 ปี จึงอยากถามว่าที่ พล.อ.ประวิตร พูดมามันจริงใจหรือเปล่า โดยส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดุดัน แต่ขี้กลัว ไม่ใช่นักบู๊ แต่ร้องเพลงเก่งอันนี้ต้องยอมรับ 

แย้มว่าที่นายกฯ เพื่อไทย เดาได้ ไพ่ลับคนที่ 3 ปริศนา

จากนั้นผู้ดำเนินรายการได้ถามตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯในใจแล้วหรือยัง โดย ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าน่าจะมีแล้วนะ ถาม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ใกล้ชิดกับพรรคพวกว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ

โดย นพ.สุุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี บอกว่า มีแพลมๆ มาบ้าง คนที่พูดถึงน่าจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ น่าจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ มีคนเดียว ทำให้ โทนี่ บอกว่าชาวบ้านน่าจะเดาได้  

นพ.สุรพงษ์บอกว่ามีพรรคเพื่อไทยน่าจะ 3 คนเป็นแคนเดิต คนที่ 2 เริ่มแพลมๆ เป็นคนมีความรู้ความสามารถ แก้วิกฤตที่เผชิญกันอยู่ เราอยากได้รัฐบาลใหม่แก้ปัญหา คนเป็นนักบริหารที่ดูไว้ก็เห็นว่าเตรียมพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การเมืองแล้ว ส่วนคนที่ 3 ยังเป็นปริศนาอยู่ 

โทนี่บอกคนที่ 3 จะเอาตนเองแต่ตนถูกตัดสิทธิไปแล้ว ไม่พอของเก่าเป็นนายกฯไปแล้ว 6 ปี

"จริงๆเขาเดาได้หมดแล้ว" โทนี่ กล่าว

เชื่อ 'เพื่อไทย' เมินจับมือ พปชร.

ถามว่า ประยุทธ์ยุบสภาฯ โทนี่ บอกว่า การยุบสภาเป็นสมาชิกพรรค 30 วันถ้าครบเทอมจะต้องสังกัดพรรค 90 วัน ถ้า พล.อ.ประยุุทธ์จะอยู่ครบเทอม จะมีการลาออกก่อน 90 วัน ถ้ายุบสภาจมีเวลา 30-45 วันรีบหาพรรคใหม่ ก็กล้วยเยอะสำหรับฝั่งรัฐบาล ฝั่งฝ่ายค้านมีแต่ประชาชนคอยไว้เนื้อเชื่อใจ โดยงวดนี้ฝั่งรัฐบาลจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจตอนยุบสภาอย่างสั้นๆ 

ถามว่า ถ้าเลือกตั้งโอกาสพรรคเพื่อไทยจับมือพรรคพลังประชารัฐ โทนี่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับฝ่ายประชาธิปไตยในพรรคร่วมฝ่ายค้านมากกว่า ตนเดาเอา เพราะทำงานร่วมกันมา 2-3 ปีแล้ว เขาก็ขัดแย้งกันน้อยมาก ผมบอกฝั่งประชาธิปไตยหรือฝ่ายค้านจะมี 350 เสียง เพราะฉะนั้นไม่ยุ่งยากอะไร

ขู่ 'ประยุทธ์' ลากยาว เข้าทาง 'เพื่อไทย'

ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ทั้งในแง่การพูดคุยกับเพื่อนฝูงเรื่อง 250 เสียงของพรรคเพื่อไทยจะยิ่งสูงขึ้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ลากยาวก็ยิ่งจะมีโอกาสได้ 250 เสียงมากขึ้น ถ้าเทียพรรคไทยรักไทย ตอนปี 2544 ช่วงแรกประเมินไม่ได้เยอะมาก อาจจะได้สัก 100 เสียงไม่คิดว่าเกือบครึ่งสภาฯ แต่รัฐบาลชวน หลีกภัยกลับลากยาวทำให้ความแข็งแกร่งการพูดนโยบายมากขึ้น ทำให้พรรคไทยรักไทยได้ส.ส. 200 กว่าเสียง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยุบสภายิ่งช้าเท่าไร เพื่อประโยชน์ให้คนย้ายพรรคใน 30 วัน หากยุบสภาฯ เดือน ม.ค.-ก.พ. 2566 อาจจะทำให้มี ส.ส.มากขึ้นไปอีก

โทนี่ ระบุว่าถ้าฝั่งประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาล ฝั่งประชาธิปไตยต้องรวม ส.ส.มากหน่อย เพื่อให้มีความแข็งแรง สมมติรวมที่360 เสียง 10 คนได้รัฐมนตรี 1 คน 

ถามว่ามีบางพรรคหาเสียงว่าจังหวัดไหนยกจังหวัดได้รัฐมนตรี โทนี่บอกว่า ตามรัฐธรรมนูญมี รัฐมนตรี 36 คน พรรคนั้นมีรัฐมนตรีได้ 70คนทั้งของจริงและเงา รัฐมนตรีเงาและรัฐมนตรีหิ้วกระเป๋า

ถามว่าตอนเป็นนายกฯ ครบเทอม 4 ปีการทำนโยบายในรัฐบาลก่อนหน้าและต่อไปยากแค่ไหน โทนี่ ระบุว่า ตอนเข้ามาตอนแรกเป็นอาการบาดเจ็บจากต้มยำกุ้ง ชาวบ้านไม่มีงานทำ ตนเรียนรู้เรื่องระบบทุนนิยม คือต้องมีทุนถึงทำมาหากินได้ แต่ชาวบ้านไม่มีทุน เพราะดูดดเงินทุนต่างจังหวัดมาเลี้ยงกรุงเทพฯ เมื่อเงินเข้ากรุงเทพฯ คนก็ตามเงินมาหากินในกรุงเทพฯ ทำให้กรุงเทพฯรถติดมีสลัม ตนผลักดันให้เงินกลับไปต่างจังหวัดเพื่อคนกลับไปอยู่ครอบครัวมีความสุข 

โทนี่ กล่าวว่า ยุคต่อมาเมื่อรัฐบาลพรรคไทยรักไทยซ่อมได้แล้ว ก็ต้องมาดูเรื่องทำไงให้ประเทศแข่งขันได้ ตนก็มาสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ให้เป็นฮับศูนย์กลางการบิน ทำพหุุภาคีกับต่างประเทศ ทำการค้าเสรีกับบางกลุ่ม เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพคนจะเอาเงินมาลงทุนสร้างเศรษฐกิจ แต่ละช่วงนโยบายต้องเปลี่ยนไป อย่างวันนี้เราเอาประเทศลงฟลอร์ใหม่ ต้องดึงงประเทศขึ้นมาทำไงให้ระบบราชการฟังก์ชั่นมากกว่านี้ ทำยังไงถึงให้มีโอกาสทางธุรกิจเศรษฐกิจแก่คนทุกระดับ 

ขณะเดียวกัน ผู้ฟังทางบ้านได้ถามว่า พรรคฝั่งประชาธิปไตยไม่ชัดเจนอยากให้กาพรรคเพื่อไทยไม่ต้องกาพรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย ไม่นั้นประชาชนจะเกิดความสับสน โทนี่ บอกว่าเกรงใจคนอื่นเขา จริงๆแล้วถ้าบอกว่าให้กาเบอร์ไหนก็ต้องพรรคเพื่อไทยทั้งคนและเขต

คาด 'ประวิตร' เป็นนายกฯ ก๊อกสอง

ในช่วงท้ายรายการมีการถามถึงสงครามตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ผ่าน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ตัวแทนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ โทนี่ บอกว่า สายพีระพันธุ์ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ สายไพบูลย์สนับสนุน พล.อ.ประวิตรอยู่ ตอนนี้น้ำตาลเริ่มขม ก็เลยต้องเป็นอย่างนี้ต้องดูไป ตนคิดว่าหลังเลือกตั้งก็ตัวใครตัวมันแล้ว

ถามถึงรายการครั้งหน้าจะยังมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อยู่หรือไม่ โทนี่ ระบุว่า "ผมยังเดาไม่ออก ผมเดาไม่ออก ถ้าคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์อยากหาทางอยู่ให้ได้ แม้จะอยู่ตามกฎหมายที่ตีความช่วยกัน แต่ถ้าได้อยู่ก็คือเหนื่อย แล้วถามว่าเป็นประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทยไหม เพราะพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนนง่ายขึ้น หาเสียงง่ายขึ้น"

ถามว่า ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ แล้วเป็นใคร โทนี่ กล่าวว่า ถ้า ประยุทธ์ยุบสภาฯ จะต้องเป็นนายกฯ รักษาการ ถ้าไม่ยุบสภา ก็ต้องพ้นนายกฯ ต้องหาเสียงในสภาฯ สภาพ ครม.จะหมดสภาพ ต้องหาเสียงในสภาฯ การหาเสียงในสภาฯ ต้องเอาคนที่มีชื่อเป็นนายกฯ ตอนนี้มีประชาธิปัตย อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคก็ออกจากพรรคไปแล้ว ภูมิใจไทยก็มี อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อไทย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ออกจากพรรคไปแล้ว แต่ละพรรคจะเสนอใครไปชิงที่มีสิทธิ เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่มีสิทธิแล้ว

"พล.อ.ประยุทธ์พ้น ต้องเสนอ ป้อม (พล.อ.ประวิตร) ก็ไม่ได้ เมื่อใช้ออฟชั่นสองใช้บุคคลภายนอก ถึงตอนนั้น ป้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯได้ เพราะ ส.ว.มาเลือกด้วย  ถ้า ส.ว.ไม่เลือกใครเลยทั้งฝั่งอนุทิน ชัชชาติ ชัยเกษม ก็ต้องมาหาคะแนนให้ได้ 2 ใน3 เสียงของรัฐสภาเพื่อหานายกฯ คนนอก" โทนี่ ระบุ