'เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก' ผู้อำนวยการบริษัท กันตนา กรุ๊ป ผู้ผลิตรายการประกวดความสามารถชื่อดัง เช่น เดอะ เฟซ ไทยแลนด์, และแดรก เรซ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ในความรับรู้ของตนเองที่เติบโตมาในครอบครัวธุรกิจสื่อ และเห็นว่ามีกลุ่มคนที่มีความความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT อยู่คู่กับสังคมมานานแล้ว ซึ่งตัวเองก็มักจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม L, G, B, หรือ T มาโดยตลอด แต่ส่วนตัวไม่ชอบการตีตราแบบนี้
"ถ้าถามความรู้สึกแล้ว ไม่อยากถูกตีตราว่าเป็นกลุ่มไหนเลย เพราะเราก็คือมนุษย์คนนึง ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพใด ความชอบ หรือวิถีชีวิตแบบไหน เรามีความสามารถเท่ากันควรจะมีสิทธิเสรีภาพเท่ากัน"
'เต้' บอกว่า คนเราทุกคนไม่ว่าจะเพศใด ต้องเจอความท้าทาย และอุปสรรคในชีวิตมาเหมือนกัน แต่ต่างกันแค่ว่าเรื่องอะไร อย่างตนเองแม้จะเป็นศิลปิน เป็นนักเรียนนอก แต่เพราะเป็น LGBT ด้วย ก็มักจะโดนคนอื่นตั้งคำถามเสมอว่าจะสามารถสานต่อธุรกิจบันเทิงของครอบครัวที่มีมานานกว่า 68 ปีได้หรือไม่? จะเก่งเท่าปู่ เท่าพ่อ ได้หรือเปล่า?
"แม้กระทั่งตอนเรียนโรงเรียนประจำที่สหรัฐอเมริกา แม้จะเป็นประเทศที่เจริญแล้ว เป็นโรงเรียนที่ดี แต่เราก็ยังโดนเพื่อนรังแก เพราะความเป็นเอเชีย และ LGBT จนต้องย้ายมานั่งเรียนติดคุณครู นอนห้องข้างคุณครู มันเป็นความรู้สึกเครียด และท้อแท้ แต่เราก็ผ่านมันมาได้ และมันทำให้เราแข็งแรงขึ้น"
เต้เล่าต่อว่า พอถึงตอนนี้ มองกลับมาที่บ้านเรา ซึ่งเป็นสังคมที่มีความพร้อมน้อยกว่าหลายๆประเทศ การโดนทำร้ายจากการเหยียด หรือไม่เข้าใจความหลากหลายทางเพศย่อมมีมากกว่า ดังนั้นเมื่ออยู่ในจุดที่พอจะทำอะไรได้บ้าง เขาจึงอยากสร้างสื่อที่ไร้ข้อจำกัดทางเพศ เพื่อให้คนเหล่านี้รู้ว่า "คุณไม่ได้อยู่คนเดียว คุณมีเรา ชีวิตเราก็ไม่ได้ง่าย เราเข้าใจคุณ ขอให้คุณเชื่อมั่นในการเป็นตัวของตัวเอง ในทางที่ดีและสร้างสรรค์ เราพร้อมจะเป็นเพื่อนคุณ"
"พอใจในสิ่งที่เราเป็น เราไม่ได้เหมือนใคร ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง แต่ชอบแต่งตัว"
เต้-ปิยะรัฐ เล่าต่อว่า ปกติ ไม่ชอบ กลุ่มคนที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ แล้วมักจะล้อเลียนกลุ่มหลากหลายทางเพศเป็นตัวตลกในคาเฟ่ ทั้งที่ความเป็นจริง คนเหล่านี้มีหลายประเภท หลายแบบ เช่น แดร็ก ควีน ซึ่งพวกเขาเป็นคนมีความสามารถ และใช้ความสามารถนั้นทำให้คนหัวเราะต่างหาก ไม่ใช่ตัวตลก แม้ประเทศไทยจะเปิดกว้างเรื่องเพศ แต่เราต้องทำให้กลุ่มคนหลากหลายทางเพศเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ในไนท์คลับ
เช่น ในรายการเดอะเฟซ ไทยแลนด์ ตั้งแต่ซีซั่น 3 เป็นต้นมา จึงเปิดพื้นที่ในทุกเพศได้เข้ามาแข่งขัน แสดงความสามารถ แสดงตัวตน และทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ซึ่งตัวเต้เองก็ยอมรับว่า ตัวเอง ก็ได้เรียนรู้ และรู้จักตัวเองมากขึ้น
โดยจะเห็นได้ว่า ทรานส์เจนเดอร์ เกย์ ผู้หญิง ผู้ชาย ที่เข้ามาแข่งขันร่วมกันก็ไม่ได้มีใครมีศักยภาพน้อยไปกว่ากัน แม้กระทั่งรายการแดร็กเรซ ไทยแลนด์ ซึ่งใช้ความสามารถรอบด้านมากกว่าผู้หญิง ผู้ชายอีก ดังนั้นผลที่ได้คือ รายการเหล่านี้ทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึง ดูด้วยกัน และสนุกๆ ไปกับความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาได้
เมื่อถามว่าในฐานะสื่อ อยากเห็นสังคมเป็นอย่างไร?
'เต้' ตอบว่า ทุกวันนี้คงคิดแบบนั้นไม่ได้ เพราะสังคมเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก สื่อไม่ใช่ผลิตแล้วบังคับให้คนดู แต่ผู้ชมจะเป็นผู้เลือกชมสื่อต่างหาก ดังนั้นจึงต้องผลิตรายการที่หลากหลายเพื่อให้เขาเลือกดู และเมื่อทำให้เขาดูได้แล้วต้องมีการสื่อสารกันสองทางในทุกช่องทาง ขณะเดียวกันสื่อเองต้องเปิดใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ และเปลี่ยนแปลงอนาคตของโทรทัศน์ในอนาคตพร้อมๆ กัน การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน พฤติกรรมคนดูต้องการบริโภคในสิ่งที่เขาเลือก และเข้าถึง เราจึงต้องเตรียมไว้ให้อยากหลากหลาย แตกต่าง ชัดเจน และ engage (สร้างการผูกพัน)"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :