ไม่พบผลการค้นหา
'นาตาเลีย เพลียแคม' แดร็กควีนตัวแม่ กับโลกคู่ขนานของ 'อัษฎายุทธ' นักธุรกิจค้าหีบศพ ย่านเยาวราช ผู้หลงใหลในงานศิลปะการแต่งแดร็ก เพื่อเติมความสุขให้กับชีวิต
นาตาเลีย.JPG

หนูหนึ่ง - อัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์ อายุ 37 ปี ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจขายหีบศพ และจัดพิธีกรรมศพแบบจีน รุ่นที่ 5 ย่านเยาวราช และกำลังศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ดีกรีนักเรียนทุน และเด็กกิจกรรมไม่ว่าจะเป็น นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต, หรือครูสอนเชียร์ลีดเดอร์คนหูหนวก เขามีไลฟ์สไตล์ คือ การกิน ช็อปปิ้ง และอีกหนึ่งกิจกรรมเขาหลงใหลมาก คือ การแต่งแดร็ก

นาตาเลีย.jpg

อีกมุมหนึ่ง อัษฎายุทธ คือ นาตาเลีย เพลียแคม ผู้ชนะการประกวด Drag Race Thailand คนแรกของประเทศไทย และ Miss ACDC ปี 2006 แดร็กควีน สาย Rich Bitch เธอชื่นชอบการแต่งกายแบบหรูหรา เวอร์วังอลังการ ประดับเพชรพลอยแวววาว ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งคู่ขนานกับความเป็นนายอัษฎายุทธในชีวิตจริง

เป็นเหมือนอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้เธอได้ผ่อนคลาย เป็นตัวเองแบบขั้นกว่า ได้ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้

เธอเล่าว่า ตัวเองแต่งแดร็กควีนจริงจังมาเกือบ 20 ปีแล้ว เริ่มต้นจากงานเชียร์ลีดเดอร์โรงเรียน ตามสไตล์ LGBT หลายๆ คน ซึื่งทุกครั้งที่แต่งแดร็กควีนจะมีความสุข เต็มที่กับสิ่งที่ทำ และแฝงได้ด้วยเนื้อหาที่ต้องการส่งถึงผู้ชม

ทุกวันนี้ คนไทยหลายคนเข้าใจว่าแดร็กควีน คือ ตุ๊ดแต่งหญิง ตลกไร้สาระ บางคนมักจะตีค่าว่าคนเหล่านี้อยู่ในซิกคอม ใส่วิกผมบ๊อบสีตลกๆ

แต่ในมุมมองของ 'นาตาลี' เธอบอกว่า แดร็ก (Drag: Dressed Assembling A Girl) คือ ศิลปะ อีกแขนงหนึ่งที่ใช้ในการห่อหุ้มลักษณะส่วนบุคคล โดยศิลปินจะต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรรค์ในการสร้างตัวตน การสร้างลุค ดีไซน์ชุด หน้า ผม และแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การแต่งแดร็ก สามารถทำได้ทุกเพศ ไม่จำเป็นต้องเฉพาะ LGBT เช่น ชายแต่งเป็นหญิง เรียก Drag Queen, หญิงแต่งเป็นชาย เรียก Drag King, หรืออย่าง เลดี้ กาก้า เรียก Bio-Queen เป็นต้น


"การแต่งแดร็กควีน สาย Rich Bitch ส่วนหนึ่งเป็น เพราะเคยเรียนแฟชั่นดีไซน์ ดังนั้นเวลาจะเลือกใส่ชุดอะไร รองเท้าคู่ไหนก็จะต้องเลือกที่สไตล์ถูกใจ และอีกเหตุหนึ่งที่สำคัญคือ เราไม่ใช่ไซส์ปกติที่จะยืมชุดร้านไหนใส่ก็ได้ เลยต้องตัดใหม่ทุกชุด"


ส่วนชื่อ 'นาตาเลีย' มาจากการรวมเสียงชื่อของนางงามจักรวาล ปี 2548 'นาตาลี เกลโบวา' ซึ่งมาประกวดที่ประเทศไทย และจะอำลาตำแหน่งในปี 2549 ซึ่งตรงกับปีที่เธอเข้าประกวด Miss ACDC ส่วน 'เพลียแคม' มาจากชื่อของยาแก้อักเสบ 'เพียแคม' ที่โฆษณาทางวิทยุ ซึ่งเธอบอกว่า พอใช้เป็นคำพ้องเสียง ก็ฟังดูตลกถูกใจ

นาตาเลีย2.jpg


"เราไม่ใช่กะเทย หรือสาวประเภทสอง ไม่ได้อยากทำนม เป็นผู้หญิง แต่เราแค่แต่งตัวเป็นผู้หญิง เพื่อความบันเทิง ความสนุก ศิลปะ เพื่อสิ่งที่อยากสื่อสารและสอดแทรก"

นาตาเลีย เล่าว่า การแต่งแดร็กควีน เป็นความบันเทิง แต่เธอไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง เธอก็พอใจกับชีวิตจริงอีกด้านในทุกวันนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเธอโชคดี เหมือนซื้อล็อตเตอรีถูก แม้จะอยู่ในครอบครัวคนจีน แต่ครอบครัวยอมรับได้

ตอนแรกครอบครัวก็สงสัยว่า "ลื้อแต่งหน้าทำไม?" แต่พออธิบายแล้วครอบครัวก็เข้าใจ เพราะตัวเองก็ไม่ได้สร้างภาระให้ใคร หรือทำให้ใครเดือดร้อน ขณะเดียวกันก็มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง หาเงินใช้เอง เป็นนักเรียนทุน ดังนั้นพอรายการ Drag Race Thailand เทปแรกออกอากาศ คนทั้งตระกูลพร้อมกันกดไลค์ คอมเม้นต์ แชร์ และดูไปด้วยกัน เลยเชื่อว่าความเป็น LGBT ในวัฒนธรรมคนจีนมันถูกปลดล็อคได้ แล้วตัวเองเป็นหนึ่งในนั้น

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัว หรือทุกคนจะยอมรับได้ ดังนั้นหากเราเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วคนอื่นเขาไม่เข้าใจ "ก็ช่างแม่งมันเถอะ" ส่วนครอบครัว ถ้าเราไปเวย์นี้ไม่ได้ก็ต้องปรับตัว หาเวย์ที่ต้องเองมีความสุข


"คงไม่มีใครแต่งแดร็กในชีวิตประจำวัน ตักบาตร หรือไปเชงเม้ง สวัสดีค่ะอากง ดังนั้นถ้าใครจะมาว่าเรา ก็ต้องปล่อยไป เราจะมานั่งเล่าให้ทุกคนฟังว่าทอม ดี้ เกย์ กะเทย หัวโปก ฯลฯ ไม่ได้ เพราะสุดท้ายมันก็จบด้วยความหลากหลาย"


นาตาเลีย3.jpg


เกย์หลายคู่เลิกกันเพราะแต่งหญิง?!?!

เธอพูดติดตลกว่า "ส่วนตัวไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะจะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่มี ฮ่าๆๆ แต่งงมากช่วงนี้มีโอตะที่ชื่นชอบ BNK48 ก็มาชื่นชอบเราด้วย"

นาตาเลีย กล่าวต่อว่า "การรักกันมันจะต้องรักทั้งส่วนที่เราชอบและไม่ชอบด้วย แต่ถ้าเลิกเพราะเรื่องนี้ก็หาใหม่ มีความสุขกับการใช้เงิน ซื้อกิน ไม่เห็นจะยาก ใช้เงินแก้ปัญหา จบ ฮ่าๆๆ แต่ถึงต่อให้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เลิกกัน ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนกันนะ มันเเป็นเรื่องของรสนิยมและความหลากหลาย ในทางกลับกัน ไจ๋-ซีร่า กับแฟนก็คบกันมาตั้ง 7-8 ปี เพราะชื่นชอบที่เธอเป็นแดร็กควีนนะ"


นาตาเลีย3.JPG

อนาคตอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเริ่มจากตัวเอง

นาตาเลีย หวังว่า ตัวเองจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสังคมต่อเรื่องเพศและเรื่องอื่นๆ ในอนาคต แต่เธอจะเริ่มจากการเปลี่ยนตัวเอง และคนรอบข้างก่อน เช่น การเป็นครูจิตอาสาสอนเชียร์ลีดเดอร์ในกับคนหูหนวกกว่า 10 ปี ทำให้เธอเห็นว่าเธอสามารถผลักดันความคิดของคนเหล่านี้ ให้หันมาทำกิจกรรม และเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้เหมือนคนทั่วๆไป

ดังนั้น แดร็กควีน ก็จะไม่ใช่แค่การแต่งหญิงเท่านั้น แต่ยังสามารถทำประโยชน์อื่นๆ ได้ด้วย โดยเธอได้รับเชิญเป็นวิทยากรสอนนักศึกษามหาวิทยาในฐานะของแดร็กควีนที่ประสบความสำเร็จในการใช้สื่อ, หรือแม้แต่อนาคต อาจจะลงสมัครเป็นนักการเมืองก็ได้

โดยเธอกล่าวติดตลกปิดท้ายว่า เธอใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ทำมาหมดแล้วทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่แดร็กควีนอย่างเธอทำไม่ได้ นอกจากการมีลูกด้วยการปฏิสนธิด้วยตัวเอง

"ทำทุกอย่างมาแล้ว แต่ที่อย่างเดียว ที่ทำไม่ได้ และไม่กล้าทำคือ แต่งงานและมีลูก และปฏิสนธิด้วยตัวเอง แม้จริงๆ จะอยากแต่งงานก็ตาม" นาตาเลียกล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

วัฒนธรรมแดร็กในโลกไร้เพศของ 'ปันปัน นาคประเสริฐ' เจ้าแม่แดร็กควีนไทย ผู้ไม่เคยหมดไฟในการทำโชว์