พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. เรียกร้องให้ตนเองนำนาฬิกาทั้ง 25 เรือน ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขประจำตัวเรือน ว่า “ไม่ใช่ของผม และขอยืมเขามา แล้วใส่ตั้งเป็นสิบปีแล้ว ใส่มากี่เรือนก็ไม่รู้ ผมคืนหมดแล้ว"
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะนำนาฬิกาหรู 25 เรือนส่งให้คณะกรรมการ ปปช.ตรวจสอบ โดยระบุว่า แม้ พล.อ. ประวิตร จะอ้างว่า นาฬิกาจำนวนมากที่ยืมมา ได้ส่งคืนแก่เจ้าของแล้ว แต่ในข้อเท็จจริง ยังสามารถตรวจสอบได้ ว่าได้คืนอย่างไร คืนกับบุคคลใด หรือหากให้คืนกับทายาท ก็สามารถขอตรวจสอบจากทายาทได้ ดังนั้น นาฬิกาดังกล่าวต้องนำมาตรวจสอบเพราะเป็นของนำเข้า ว่าได้เก็บภาษีครบถ้วนหรือไม่
ติงนำดาราช่วยจัดรายการ ต้องขอมติ ครม. ก่อน
นายเรืองไกรยังชี้แจงกรณีที่ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้ กรณีเตรียมยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบการนำศิลปินดารามาช่วยจัดรายการ 'เดินหน้าประเทศไทย' ของรัฐบาล โดยระบุว่า ในวันประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบใบประกาศขอบคุณ ศิลปินดารา ซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว เพราะโดยหลักการ กระบวนการเหล่านี้จำเป็นต้องมีมติคณะรัฐมนตรีรองรับ ศิลปินดารามาช่วยงานต้องมีสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
แต่หากไม่มีสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เท่ากับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้ได้ประโยชน์ จะมีความผิดตามมาตรา 128 กฎหมาย ป.ป.ช. ที่ว่าด้วยความผิดเรื่องการได้มาซึ่งประโยชน์อื่นใด ดังนั้น จึงขอให้ พล.ท.สรรเสริญ ใจเย็นและให้มือกฎหมายที่เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ก่อนจะแสดงความคิดเห็น