ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่ง พร้อมประกาศนโยบายรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจ-เล็งขายรถกันกระสุน-ยกเลิกผู้รับใช้ประจำตำแหน่ง ย้ำคนรวยอย่าเลี่ยงภาษี พร้อมระบุ การจ่ายภาษีเหมือนการทำญิฮาดเพื่อช่วยให้ประเทศชาติดีขึ้น

อิมรอน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถานซึ่งเพิ่งเข้าพิธีปฏิญานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) โดยระบุว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลคือการปรับเปลี่ยนประเทศสู่การเป็นปากีสถานยุคใหม่และต้องลดหนี้ในประเทศลงให้ได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้มีฐานะร่ำรวยในปากีสถานจ่ายภาษีตามกฎหมาย อย่าเลี่ยงภาษี ทั้งยังฝากถึงชาวปากีสถานในต่างประเทศให้สนับสนุนการลงทุนในปากีสถานเพิ่มขึ้นด้วย


"การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ที่พวกคุณต้องรับผิดชอบ คิดเสียว่านี่คือการทำญิฮาด (สงครามศักดิ์สิทธิ์) ซึ่งคุณต้องจ่ายเพื่อให้ประเทศชาติของคุณได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น"


นอกจากนี้ ข่านยังระบุด้วยว่าเขาจะจำหน่ายขบวนรถยนต์กันกระสุนประจำตำแหน่งนายกฯ เพื่อลดงบประมาณในการบำรุงรักษา พร้อมย้ำว่าตนเองจะยังอาศัยอยู่ที่บ้านส่วนตัวแทนการเข้าไปพำนักในที่พักประจำตำแหน่ง เพื่อลดจำนวนผู้รับใช้นายกรัฐมนตรี จาก 524 ตำแหน่ง เหลือเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น


"ผมอยากบอกประชาชนของผมว่า ผมจะใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ผมจะช่วยประหยัดเงินของพวกคุณ"


ข่านได้วิพากษ์วิจารณ์ธรรมเนียมการกินอยู่และการใช้ชีวิตของผู้นำประเทศมุสลิมปากีสถาน ซึ่งมีประชากรกว่า 208 ล้านคน เพราะผู้คนส่วนใหญ่มีฐานะแตกต่างกันอย่างมาก ผู้ที่ร่ำรวยใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาล สร้างความเหลื่อมล้ำต่อประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ทั้งยังไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ทำให้เขาประกาศนโยบายประชานิยมหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือผู้ยากจน

อย่างไรก็ตาม ข่านในวัย 65 ปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามว่าเขาเองก็ใช้ชีวิตติดหรูและเจ้าสำราญในสมัยที่ยังเป็นนักกีฬาคริกเก็ตชื่อดังของปากีสถาน แต่เพิ่งปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์และวิธีการดำเนินชีวิตในช่วงที่ลงสมัครรับเลือกตั้งและเข้าสู่เวทีการเมืองเต็มตัว

ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมองว่านโยบายส่งเสริมการศึกษาของข่านเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะเขาประกาศว่าจะสนับสนุนงบประมาณด้านนี้แก่เยาวชนทั้งหญิงและชาย รวมเป็นเงินกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาประชาชนไม่รู้หนังสือ แต่กรณีที่ข่านระบุว่าจะลดการพึ่งพิงเงินทุนจากต่างประเทศนั้น ยังไม่มีกรอบแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน จึงน่าสงสัยว่าจะเป็นมาตรการที่ดำเนินการได้จริงหรือเป็นเพียงการประกาศเพื่อคะแนนนิยมเท่านั้น

นอกจากนี้ ประชาชนและพรรคฝ่ายค้านที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของข่านยังระบุด้วยว่า รายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งใน ครม.ข่านชุดแรก มากกว่าครึ่งเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสมัยของเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อดีตประธานาธิบดีปากีสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตรัฐบาลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ รวมถึงเป็นผู้ออกคำสั่งปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐด้วยความรุนแรง ทำให้ไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในปากีสถานขึ้นได้จริงหรือไม่

ที่มา: The Guardian/ Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: