ไม่พบผลการค้นหา
สมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์เฟซบุ๊ก กฎหมายที่ใช้อยู่ในตอนนี้ กำลังเป็นอาวุธทำร้ายคนจำนวนมากที่หวังดีกับบ้านเมือง พร้อมบอกด้วยว่า อดีตพุทธะอิสระจะไม่ใช่กรณีสุดท้าย

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่องการรักษากฎหมายที่เดินหน้าสู่ความขัดแย้ง ภาพการจับกุม อดีตพุทธะอิสระ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสองฝ่ายทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนเกิดเป็นกระแสตีกลับ จนนายกรัฐมนตรีต้องออกมาขอโทษผ่านสื่อ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่อยู่ในฐานะบอกได้ว่าใครถูกผิด เพียงแต่คิดว่าเรื่องราวทำนองนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และใครจะเป็นรายต่อไป

เพราะตั้งแต่ช่วงสิบปีที่ผ่านมาของความขัดแย้งทางการเมืองที่สองฝ่ายมุ่งเอาชนะในทางการเมืองทุกรูปแบบวิธีการหากเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องแล้วไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกสถานที่ประชุมอาเซียน ของกลุ่มเสื้อแดง, การรุมล้อมของคนเสื้อแดงทุกรถของนายอภิสิทธิ์, การชุมนุมที่บานปลายของคนเสื้อแดง, การยึดทำเนียบ ปิดถนนของคนเลื้อเหลือง และ กปปส., หรือแม้แต่การยึดสนามบินสุวรรณภูมิ การขัดขวางการเลือกตั้งของกลุ่ม กปปส. ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดทั้งสิ้น

ซึ่งการดำเนินการตามกฎหมายค่อยๆ เกิดขึ้นตามแบบฉบับการทำงานแบบราชการ แม้ล่าช้าแต่ไม่หยุด คดีความต่างๆ ทุกคดีอาจใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานเป็นปี ผ่านการพิจารณาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ละขั้นตอน เพื่อเน้นความถูกต้องตามกฎหมายที่มีอยู่ในบ้านเมือง การตัดสินใจดำเนินคดีในแต่ละกรณี สิ่งที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทำได้ คือ สรุปตามสิ่งที่อยู่ในกฎหมายไปก่อน และรอผู้มีอำนาจขั้นสูงกว่าใช้ความกล้าในการสั่งการในทางที่แตกต่าง แต่ในทุกขั้นตอนถูกเสนอขึ้นมา การตัดสินใจแบบราชการ คือ เห็นชอบ และดำเนินการต่อโดยใช้ความคิดทางนิติศาสตร์เป็นหลักเพื่อป้องกันตนมากกว่าคำนึงถึงความเหมาะสมหรือประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อบ้านเมือง

คดีความทางอาญาและแพ่งจำนวนหลายร้อยคดีที่เกิดขึ้นในช่วงชุมนุมของทั้งสองฝ่าย จึงรอคอยเพียงเมื่อไรจะถึงคิวเชือด คนเสื้อแดงโดนจำคุกไปแล้วมากมายจากกรณีเผาเมืองและใช้ความรุนแรง พันธมิตรหลายคนถูกฟ้องล้มละลาย ถูกอายัดบัญชีทรัพย์สินจากกรณีปิดสนามบิน ลุงกำนันและกปปส.จะตามมาในเร็วๆ นี้ทั้งคดีความทางอาญาและทางแพ่ง

"วาทกรรมที่พูดก็มีเพียงว่า กรรมใดใครก่อก็ย่อมมีผลกรรมตามมา หรือเลวร้ายกว่านั้นคือการทับถมจากฝ่ายที่เห็นต่างว่าสมควรแล้ว ใครหนีได้ก็หนี ใครไม่หนีก็ก้มหน้าก้มตารับโทษในคุกด้วยวาทกรรมที่ให้กำลังใจว่า เป็นผู้กล้ายอมรับในโทษทัณฑ์ ไม่หลบหนีเหมือนใครบางคน" นายสมชัยระบุในเฟซบุ๊ก

โดยส่วนตัวไม่ปฏิเสธ ว่า ผู้ก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวนั้นกระทำผิดทั้งทางอาญาและแพ่ง หลายเรื่องหลายกรณีคือความวินาศของบ้านเมืองในแต่ละยุคด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่แต่ละฝ่ายทำล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อทางการเมืองและความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงสังคมการเมืองในช่วงนั้นให้ดีขึ้นในสายตาของพวกเขา แม้ว่าจะถูกมองจากอีกฝ่ายว่าเป็นการงมงายหลงในอุดมการณ์อย่างไม่ลืมหูลืมตา ยอมให้ถูกชักจูงกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายก็ตาม

แต่วันนี้ผู้ปกครองบ้านเมืองที่มาจากการยึดอำนาจ ลอยตัวจากสถานการณ์เนื่องจากตนเองพ้นผิดจากกฎหมายที่ฝ่ายตนร่างให้การกระทำใดๆ ในการรัฐประหารหรือหลังจากนั้นไม่เป็นความผิด แต่กลับนิ่งเฉยในการดูผลการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่ขัดแย้งกันภายใต้คำพูดว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย

ส่วนตัวกำลังบอกว่า กฎหมายต่างๆ ที่เดินหน้าบังคับใช้ กำลังเข่นฆ่าคนจำนวนมากที่ปรารถนาดีและเสียสละต่อบ้านเมือง คนที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับการชุมนุม คนที่กล้าลุกขึ้นสู้กับอำนาจรัฐในยุคนั้น คนที่ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองทั้งหลายกำลังถูกกฎหมายคืบคลานกำจัดไปทีละคนสองคน หรือนี่ คือ เกมที่วางไว้ว่า เมื่อถึงเวลาที่ผู้ปกครองในอนาคตขึ้นครองอำนาจและกล้าทำสิ่งที่ไม่ชอบธรรม วันนั้นจะได้ไม่มีใครเลยสักคนที่เหลือจะมาต่อสู้คัดคานเขาอีกแล้ว หากเป็นเช่นนี้จริง บอกได้เลยครับ กรณีอดีตพุทธะอิสระ ยังไม่ใช่กรณีสุดท้ายอย่างแน่นอน