ไม่พบผลการค้นหา
พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินกับศ��ลปกครองกลาง ขอสิทธิโหวตนายกฯ อ้าง กกต. คำนวณไม่ถูกต้อง คะแนนพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหา ด้านโฆษก ปชป.โต้ไม่ศึกษาข้อกฎหมาย ชี้ กกต.คำนวณตามความเป็นจริง

นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและมีความเห็นเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพิกถอนประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ครั้งที่ 2 วันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา และให้ประกาศรับรองตนกลับเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อตามกฎหมาย 

นายพีระวิทย์ เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการที่ กกต. คำนวณคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประกาศผู้ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ คือ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส. จิตภัสร์ กฤดากร ประชาธิปัตย์ แต่เมื่อไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดปกติของคะแนน

โดยที่คะแนนจากพรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งประเทศ ที่ กกต. ประกาศเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ระบุว่าได้คะแนน 3,947,726 คะแนน และต่อมา กกต. ได้สั่งให้รับคะแนนใหม่ในเขต 1 จ.นครปฐม คะแนนนรวมของพรรคประชาธิปัตย์ลดลงราว 50 คะแนน และใน 6 หน่วย 5 จังหวัด พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนรวมมาใหม่ไม่ถึง 200 คะแนน จนเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งรวม 49 คน พบว่า พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนน 3,957,20 คะแนน ทำให้เกิดความสงสัยว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ทำไมเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อมีการนับคะแนนใหม่และคะแนนได้น้อยกว่าเดิม แต่คะแนนรวมทำไมถึงเพิ่มขึ้น 9,894 คะแนน

และถ้าเอาคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เป็นฐานและลบด้วยคะแนนของเขต 8 เชียงใหม่ และคะแนนเขต 1 นครปฐม ก่อนมีการนับใหม่ แล้วบวกด้วยคะแนนเขต 8 เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. โดยนำมาคำนวณ พรรคไทรักธรรมจะมีคะแนนชนะพรรคประชาธิปัตย์ 0.1 คะแนน หรือคิดเป็นคะแนนดิบ 7,100 คะแนน ตนยังได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเหมือนเดิม แต่กลับเอาคะแนนเมื่อวันที่ 8 พ.ค. บวกด้วยคะแนนของเขต 8 เชียงใหม่ล่าสุด ทำให้พรรคไทรักธรรมแพ้พรรคประชาธิปัตย์ไป 0.0027 คะแนน หรือ คิดเป็นคะแนนดิบ 185 คะแนน

นอกจากนี้นายพีระวิทย์ ยังได้เดินทางไปยื่นฟ้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลปกครองด้วย เพื่อขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราว ให้ได้รับสิทธิกลับเป็น ส.ส. เพื่อเข้าโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ก่อน (5 มิ.ย.)


'ราเมศ' โต้ 'พีระวิทย์' ไม่ศึกษาข้อกฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการยื่นคำร้องที่ไม่ได้ศึกษาข้อกฎหมาย เพราะอำนาจในการคำนวณคะแนน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่มีการคำนวณและรวบรวมคะแนนทั้งหมดตามความเป็นจริง เมื่อมีการรวมคะแนนแล้ว พรรคการเมืองใดได้จำนวนคะแนนเท่าใด ก็จะนำไปสู่การกำหนดจำนวน ส.ส.ที่ทุกพรรคพึงจะมี นี่คือหลักการ  

ดังนั้นเมื่อดูจากคะแนนรวมของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงทำให้พรรคฯ ได้จำนวน ส.ส.เพิ่ม 1 คน ซึ่งเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการดังกล่าว การคำนวณต้องดูคะแนนของแต่ละพรรคโดยรวมด้วย

พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า การได้จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม 1 คน คือนางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร นั้น เป็นการได้มาโดยความชอบธรรมเป็นการดำเนินการของ กกต.ที่ชอบด้วยกระบวนการ หากมีการให้ข่าวที่พาดพิง หรือบิดเบือนใดๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายจะมีการดำเนินการต่อไป