นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความระบุว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างมากที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ไม่สามารถจับสัญญาณความผิดปกติมากมายจากผู้ก่อเหตุกราดยิงโรงเรียนในฟลอริดาได้ เพราะมัวแต่ไปเสียเวลากับการพิสูจน์ความเกี่ยวข้อระหว่างแคมเปญหาเสียงของเขากับรัฐบาลรัสเซียในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 โดยทรัมป์ย้ำว่าไม่มีความเชื่อมโยงอะไรทั้งนั้นระหว่างเขากับรัสเซีย เพราะฉะนั้นขอให้ FBI กลับไปมุ่งมั่นกับหน้าที่ปกติของตนเอง แล้วทำให้ชาวอเมริกันภาคภูมิใจอีกครั้งจะดีกว่า
ทวีตดังกล่าวของนายทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจาก FBI ยอมรับว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ที่ไม่ได้ติดตามจับตาความเคลื่อนไหวของนายนิโคลาส ครูซ ชายวัย 19 ปีที่ก่อเหตุกราดยิงโรงเรียนมัธยมในฟลอริดา จนมีผู้เสียชีวิต 17 ราย ทั้งที่มีผู้ใกล้ชิดกับนายครูซ แจ้งเบาะแสว่าเขาครอบครองปืน และแสดงความปรารถนาที่จะสังหารผู้อื่น รวมถึงมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่แน่นอน และแสดงออกถึงทัศนคติเหยียดเชื้อชาติ สีผิวอย่างชัดเจนในโซเชียลมีเดีย จนมีผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขาหลายครั้ง
นักเรียนและประชาชนทั่วไป รวมตัวประท้วงเรียกร้องกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดขึ้น ที่ฟอร์ดลอเดอร์เดล ฟลอริดา ป้ายประท้วงนี้เขียนว่า "ลดปืน คะแนนสอบเพิ่ม"
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 กุมภาพันธ์) มีการชุมนุมใหญ่ที่ฟอร์ดลอเดอร์เดล ใกล้กับเมืองพาร์คแลนด์ ที่ตั้งของโรงเรียนที่เกิดเหตุกราดยิง มีผู้เข้าร่วมหลายพันคน ส่วนใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายควบคุมการครอบครองปืนที่เข้มงวดมากขึ้น โดยหนึ่งในผู้ที่สร้างกระแสฮือฮามากที่สุดในการประท้วง ได้แก่เอ็มมา กอนซาเลซ นักเรียนที่รอดชีวิตจากเหตุกราดยิง ที่ขึ้นมากล่าวโจมตีนายทรัมป์ว่าหน้าไม่อาย รับเงินจากสมาคมไรเฟิลแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NRA เป็นเงินถึง 30 ล้านดอลลาร์ และเธอยังย้ำว่านักการเมืองที่รับเงินจาก NRA เป็นพวกพวกที่หน้าไม่อายทั้งหมด
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 สมาคมไรเฟิลแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นลอบบียิสต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ใช้เงิน 11 ล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนนายทรัมป์ และใช้อีก 19 ล้านดอลลาร์ ในการต่อต้านนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต