6 ก.พ. 2561 เวลา 13.45 น.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุอีกครั้งถึงกรณีการจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่เข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ว่า ได้รับรายงานว่านายเปรมชัย ขออนุญาตเข้าไปพักค้างคืนตามปกติ แต่อยู่เกินที่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปจับกุม และปกติเมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในเขตอุทยานตามที่ได้รับอนุญาตเจ้าหน้าที่จะไม่ได้ไปค้นรถยนต์ และนักท่องเที่ยวที่เข้าไปก็ไม่ได้ถือปืนให้เห็น ถ้าถือให้เห็นเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้าไป โดยปกติเจ้าหน้าที่จะไม่ได้ตรวจค้น ไปเที่ยวอุทยานใครเขาค้นตัวกัน และคนที่เข้าไปเที่ยวในอุทยานเขารักธรรมชาติโดยพื้นฐาน
“ไม่ต้องไปสงสัยประเด็นอื่น มีคนแอบเข้าไปล่าสัตว์แล้วเจ้าหน้าที่จับได้ แต่กรณีนี้เขาขอเข้าไป เมื่อเข้าไปแล้วเขาไปออก แต่กลับไปกางเต็นท์อยู่ข้างใน ถือว่าขัดต่อระเบียบเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปจับกุม พอเข้าไปก็เจออาวุธปืนและซากสัตว์บางส่วนจึงควบคุมตัวออกมา ขณะที่ในช่วงเช้าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกก็พบซากเสือดำ ถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่แค่สัตว์เล็กน้อย และเมื่อเป็นคดีความเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเหมือนคดีทั่วไป และต้องสอบสวนว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร ผิดเป็นผิดไม่ต้องกังวล ส่วนโทษจะสูงหรือไม่ ขอให้ความผิดปรากฏก่อน ผมไม่ทราบ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เราก็เสียใจ และสลดใจไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เราก็งงๆอยู่ เราอยู่กระทรวงทรัพยากรฯสัตว์ตายเราก็เสียใจ และไม่น่าเกิดขึ้นในพ.ศ.นี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ แม้แต่ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก็พูดถึงเรื่องช้าง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุม” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า รายละเอียดต้องไปดูในพื้นที่ เพราะปกติจะมีคนขออนุญาตเข้าไป ซึ่งก็มีคนเข้าไปเป็นจำนวนมาก ไปท่องเที่ยวแล้วก็กลับตามที่ขออนุญาต ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เข้มงวดในเรื่องเหล่านี้มาตลอด แต่เราคาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่ทำพฤติกรรมอย่างนี้ ยืนยันว่านายเปรมชัยไม่ได้เป็นแขกพิเศษของเจ้าหน้าที่ ตนไม่รู้จักเขา และถ้าใครเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการ
ขณะที่นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า ยืนยัน ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว กับนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หลังมีการอ้างว่าเป็นแขกพิเศษได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ ให้เข้าไปล่าสัตว์ ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ไม่เคยรู้จักว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียง และไม่มีการให้สิทธิพิเศษใดๆ
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์ฯ ว่า คณะของนายเปรมชัย ขออนุญาตเข้าไปกางเต็นท์ ซึ่งมีการประสานกับสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าของพื้นที่ ถูกต้องตามขั้นตอนปกติ โดยระบุระยะเวลาขอพักค้างแรมตั้งแต่เย็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ทางสำนักฯ จึงอนุญาต โดยถือว่า นักท่องเที่ยวทุกคนเป็นแขกของเจ้าหน้าที่
โดยก่อนเข้าไปในพื้นที่ มีการสุ่มตรวจอาวุธ และสังเกตพิรุธตามขั้นตอน ไม่มียกเว้น แต่ก็ไม่พบอาวุธ
จากนั้น หลังเข้าไปในเขตอนุรักษ์ฯ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณจุดที่กำหนดให้เข้าไปพักแรมได้ ไม่พบนายเปรมชัย และพวก ประจำจุดดังกล่าว แต่กลับอยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตาม จนพบว่า มีการลักลอบเข้าพื้นที่นอกเหนืออนุญาต เพื่อเข้าไปล่าสัตว์ป่า
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า เครื่องมือล่าสัตว์ และอาวุธปืนจำนวนมาก สามารถหลุดลอดเข้าไปได้ เพราะมีการซุกซ่อนไว้อย่างดี ประกอบกับ ทางเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าฯ ไม่ได้มีเครื่องมือตรวจสอบอาวุธ หรือ โลหะ เพราะไม่เคยมีการจัดสรร หรือติดตั้งมาก่อน โดยมองว่าน่าจะเป็นเพราะ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า เป็นพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวผู้สนใจศึกษาธรรมชาติ ไม่ควรมีสิ่งที่ทำให้รู้สึกอึดอัด หรือถูกไม่ไว้วางใจ
ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ระบุว่า พฤติการณ์ของนายเปรมชัย และพวก ปรากฏชัดเจน ว่าตั้งใจเข้าไปล่าสัตว์ป่า เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครอบสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ม.16 การล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ม.19 มีซากสัตว์ป่าอยู่ในครอบครอง และ ม.26 ล่าสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์ฯ รวมทั้งอาจผิดฐานครอบครองอาวุธปืนด้วย ยืนยัน รวบรวมพยานหลักฐานส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดตามกฎหมายเต็มที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง