ไม่พบผลการค้นหา
ผ่านมา 1 สัปดาห์คดีล่าสัตว์ในทุ่งใหญ่ฯ ที่นายเปรมชัย กรรณสูตและคณะถูกตั้งข้อหากระทำความผิด หลังเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ท่ามกลางการจับตามองของสังคมรอบข้างว่าคดีนี้จะออกมาในรูปแบบไหน

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561 เกิดคดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ นายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ควบคุมตัวหลังพบว่าคณะของนายเปรมชัยเข้าไปตั้งแคมป์ในจุดห้ามตั้ง อีกทั้งยังตรวจค้นเจอซากสัตว์ป่า คือ หนังเสือดำ, ไก่ฟ้าหลังเทา และเก้ง พร้อมด้วยอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง แต่สื่อหลายสำนักต่างจับตาและรายงานอย่างต่อเนื่อง เพราะ นายเปรมชัย กรรณสูต มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก เนื่องจากเป็นประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 

เหตุการณ์นี้ สร้างแรงกดดันให้กับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนายเปรมชัยเป็นบุคคลมีชื่อเสียง อีกทั้งบริษัท อิตาเลียนไทย ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคใหญ่ๆ ของรัฐบาลด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ พล.อ. สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต่างยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และอยากให้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ตามพยานหลักฐาน 

นอกจากสื่อจะให้ความสนใจแล้ว ประชาชนทั่วไปก็ให้ความสนใจ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ที่บุคคลมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจก่อสร้าง จะประพฤติตัวท้าทายกฎหมายด้วยการเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ พื้นที่มรดกโลกจากยูเนสโก เกิดเป็นแคมเปญรณรงค์ต่างๆ ใน change.org เรียกร้องผู้มีอำนาจให้ลงโทษนายเปรมชัยอย่างถึงที่สุด ให้เป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ต่อไป

โดยนายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวในวงเสวนา 'จาก 16 ถึง 61 คลี่ม่านเกมล่าสัตว์ 'ทุ่งใหญ่' เกมชีวิตอภิสิทธิ์ชน? ว่า ไม่จำเป็นต้องเพิ่มโทษ เพราะกฎหมายดีอยู่แล้ว บังคับใช้ก็รัดกุม แต่สิ่งที่ต้องทำคือ จิตสำนักของคน เนื่องจากกรณีนี้ "คนฆ่าสัตว์ป่าไม่ปกติ"

แม้เจ้าหน้าที่จะตั้งข้อหากับนายเปรมชัย และพวกรวม 4 คน ในความผิดฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกอาวุธปืนเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง, เข้าไปในเขตต้องห้าม, พยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, พยายามล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, และเข้าไปในเขตป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวที่คนละ 150,000 บาท 

ส่วนในกรุงเทพฯ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายศาลค้นบ้านนายเปรมชัย ใน ซ.ศูนย์วิจัย 3 เขตห้วยขวาง และพวกอีก 3 คนที่ต่างจังหวัดเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งผลจากการตรวจค้นในครั้งนี้ พบงาช้าง 2 คู่ และอาวุธปืน 43 กระบอก โดยทางภรรยาของนายเปรมชัย อ้างว่างาช้างที่พบมีใบอนุญาตในการครอบครองถูกต้อง แต่ไม่มีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ที่งาช้างเท่านั้น จึงให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบต่อไป

ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่เกิดเหตุการณ์ มีบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงว่าเป็นผู้ติดต่อให้คณะของนายเปรมชัยเข้าไปในพื้นที่ทุ่งใหญ่เพื่อศึกษาธรรมชาติ คือ นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานฯ โดยผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้คือ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ โดยที่ น.ส.กาญจนา ยอมรับว่า มีนายนพดลโทรศัพท์มาขอให้ คณะของนายเปรมชัย เข้าพื้นที่ โดยอ้างเหตุผลว่า เข้าไปศึกษาธรรมชาติ เพราะนายเปรมชัยเป็นนักนิยมไพร ชื่นชอบธรรมชาติ และเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา นายนพดล พฤกษะวัน ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนก่อนกำหนด ที่เดิมคือวันที่ 15 ก.พ. 2561 เนื่องจากไม่ต้องการพบสื่อมวลชน โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ได้โทรศัพท์หา น.ส. กาญจนา ผู้อำนวยการสำนักอนุรักสัตว์ป่า เพื่อขอประสานงานให้นายเปรมชัยเข้าไปเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ 

สำหรับกระแสข่าวลือว่านายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกอาจหลบหนีออกช่องทางธรรมชาติไปแล้วนั้น พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ได้ประสานให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองช่วยสังเกตข้อมูลการเดินทางไว้แล้ว และส่วนตัวเชื่อว่านายเปรมชัยกับพวกยังไม่หลบหนี เนื่องจากมีกำหนดรายงานตัวกับศาลทุกๆ 12 วัน

ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้น ยังบอกไม่ได้ว่าเสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซนต์ เพราะมีหลายฝ่ายเข้ามาสอบสวน

นอกจากนี้ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า นายเปรมชัย และพวก ถูกแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังประสานกับทนายความของนายเปรมชัย เพื่อออกหมายเรียก เพื่อให้ทั้ง 4 คน มาให้ปากคำเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหาตามที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ร้องทุกข์ไว้ภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดให้นายเปรมชัย พร้อมพวกมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 26 มี.ค. 2561 เป็นนัดแรก 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปรมชัย กรรณสูตกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)