จากกรณี พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก 7 นักศึกษา และนักกิจกรรม ที่จัดกิจกรรม "นัดรวมพลประชาชนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านสืบทอดอำนาจ คสช." เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา บริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน ในข้อหาฝ่าฝืน ข้อ 12 ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 และกระทำการยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลใจต่อคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากขัดและส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามมาตรา 34 และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามมาตรา 44 อีกทั้งยังเป็นการละเมิดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ข้อที่ 19 และ 20 ซึ่งประเทศไทยมีพันธะกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม จึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกคำสั่งโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังขอให้มีการยุติการตั้งข้อกล่าวหากับนักกิจกรรม ซึ่งเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้รับรองไว้ซึ่งเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ อีกทั้งเป็นไปตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง
ในแถลงการณ์ ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลและคสช. ต้องทบทวนบทบาทของตนเอง จากการกระทำดังกล่าว และไม่ละเมิดต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอันเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน
ด้าน สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการละเลยหลักนิติรัฐ การล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่มีจุดยืนเห็นต่างจากรัฐบาล ทั้งยังกังวลต่อการใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ มาบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนที่แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นการเลื่อนการจัดเลือกตั้งออกไป รวมถึงกรณีที่ประชาชนตั้งคำถามต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ควรเป็นสิทธิและเสรีภาพโดยพื้นฐานของประชาชนชาวไทยที่สามารถกระทำได้