ไม่พบผลการค้นหา
'ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม' เคาะรั้วคลัง ยื่น 4 ข้อเรียกร้อง ห้ามให้อำนาจ ธกส. ดูแลธนาคารที่ดิน ทำให้เป็นองค์กรอิสระ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ให้คลังจัดหาที่ดินแก่ชาวแม่สอดให้มีราคาและพื้นที่เทียบเท่ากับที่ดินที่สูญเสีย พร้อมกับให้มีนโยบายสนับสนุนโฉนดชุมชนที่ชัดเจน

วันนี้ (8 พ.ค.) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ (P-move) ดำเนินกิจกรรมมาสู่วันที่ 7 ในกรุงเทพฯ และช่วงเช้าได้เข้ายื่นหนังสือต่อ รมว.คลัง เพื่อเรียกร้องให้ยุติการผลักดันให้มีการนำเอาธนาคารที่ดิน ไปอยู่ภายใต้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. รวมถึงการจัดตั้งธนาคารที่ดินให้เป็นองค์กรอิสระและเป็นไปตามเจตนารมณ์ภาคประชาชน และให้ดำเนินการโฉนดชุมชนบนที่ดินที่อยู่ภายใต้ธนารักษ์ โดยตัวแทนเครือข่ายได้เข้าพบหารือกับตัวแทนกระทรวงการคลัง 

พร้อมกับยื่นข้อเสนอ 4 เรื่อง ได้แก่ 1) ให้กระทรวงการคลังยุติผลักดันการให้สถาบันบริหารจัดการที่ดิน เข้าไปอยู่ภายใต้ ธกส. โดยเรียกร้องว่า เรื่องนี้ต้องยุติทันที เพราะแนวทางนี้ จะยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เกษตรกรมีภาระหนี้สิน และจะแก้ปัญหาใดๆไม่ได้ ซึ่งตัวแทนกระทรวงการคลังรับฟังและรับปากจะเสนอต่อนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

2) เร่งรัดสนับสนุนธนาคารที่ดิน ให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของภาคประชาชน ให้เป็นองค์กรอิสระ ปราศจากการเป็นการค้าเชิงพาณิชย์ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด  

3) ให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการจัดหาที่ดินทำกินและทดแทนค่าใช้จ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่ชาวแม่สอดที่จะสูญเสียที่ดิน แม้ว่าจะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินตอบแทน แต่ต้องการให้เข้าใจว่า เงินดังกล่าวก็ไม่สามารถทดแทนที่ดินได้ ส่วนการจัดสรรที่ดินทำกินนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ ต้องเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์และอยู่ใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้เทียบเท่ากับที่ดินที่สูญเสียไป

"ที่ดินที่ชาวบ้านสูญเสีย ไม่ใช่เอาเงินให้ไปแล้ว เขาจะไปซื้อหาเองได้ เช่น ถ้าได้เงิน 20 ล้านบาท แล้วให้ไปซื้อหาที่ดินเอง เงินจำนวนนี้เขาก็ไม่สามารถหาซื้อที่ดินได้ในพื้นที่ 170 ไร่ ที่เขาสูญเสียไป เพราะราคาที่ดินสูง ดังนั้นธนารักษ์ต้องจัดสรรที่ดินของธนารักษ์ให้ได้ในจำนวน 170 ไร่ ชาวบ้านจึงจะยินยอม" ตัวแทนชาวบ้านกล่าว

4) ขอให้ รมว.คลัง มีนโยบายสนับสนุนโฉนดชุมชน แปลงรวมในที่ดินสาธารณประโยชน์ 

ด้านนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อบ่ายวันนี้ (8 พ.ค) ระหว่างการประชุม ครม.สัญจรที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ถึงกรณีความคืบหน้าการนำข้อเรียกร้องของกลุ่มพีมูฟ รายงานให้ที่ประชุมครม.ทราบนั้นว่า ได้รายงานความคืบหน้าการทำงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อที่ ประชุม ครม.ทราบแล้ว และได้เสนอให้ ครม.มีติมอบให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นำไปแก้ไขโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ตนจะหารือกับสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการที่แก้ไขปัญหาพีมูฟ โดยจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการฯ โดยเร็ว เพราะได้รับรายงานมาแล้วว่า มีความคืบหน้าในการทำงาน โดยถ้าสามารถทำได้ในสัปดาห์นี้ ก็จะทำเลยจะได้ประชุมชี้แจงกันทันที

ข่าวเกี่ยวข้อง :