ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงพลังงาน เชิญชวนผู้ประกอบการเข้ารับเอกสารร่วมประมูลรับสัญญาแบ่งปันผลผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช เริ่มพรุ่งนี้ (24เม.ย.) เป็นต้นไป คาดยื่นประมูลได้ ก.ย. นี้

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติรับทราบการทำงานของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในการเปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2565-2566 ในแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช โดยออกประกาศเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจเข้ารับเอกสารเพื่อเข้าร่วมประมูลได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป (24 เม.ย.) ตามทีโออาร์การเปิดประมูลระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต 

โดยมีเงื่อนไข 1.ผู้รับสัญญาต้องแบ่งปันผลผลิตก๊าซธรรมชาติขั้นต่ำ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ในแปลงบงกช และ 700 ล้านลบ.ฟุต ในแปลงเอราวัณ ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี 2.ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเสนอราคาก๊าซธรรมชาติไม่สูงกว่าราคาเฉลี่ยในปัจจุบัน 3.ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเสนอสัดส่วนการแบ่งกำไรให้รัฐไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 รวมถึงผลประโยชน์อื่นๆ และ 4. ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอสัดส่วนการจ้างพนักงานไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ด้วย

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้กำหนดเกณฑ์ผู้รับสัญญาต้องมีทุนตั้งแต่ 2,000-4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีประสบการณ์การผลิตในอัตรา 100 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน โดยจะคัดกรองผู้มีคุณสมบัติของผู้สนจเข้าร่วมประมูลซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ และจะเปิดประมูลได้ในช่วงเดือน ก.ย. คาดว่าจะลงนามในสัญญากับผู้ประกอบการรายใหม่ได้ภายในเดือน ก.พ.62

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี ปตท.ซึ่งจะเข้าร่วมประมูลทั้ง 2 แหล่ง ส่วนเชฟรอนยังไม่ได้รับการยืนยัน

แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและบงกช เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติหลักของประเทศ มีกำลังผลิตรวม 2,110 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 75 ของก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ในอ่าวไทย โดยแหล่งเอราวัณมีปริมาณการผลิต 1,240 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จะสิ้นอายุสัมปทาน 23 เม.ย.2565 ส่วนแหล่งบงกชมีปริมาณการผลิต 870 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จะสิ้นอายุสัมปทาน 23 เม.ย.2565 และ 7 มี.ค.2566

อ่านเพิ่มเติม