ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทยรับฟังปัญหาด้านการประมงจากสมาคมชาวประมงทั่วประเทศ โดยนายกสมาคมประมง จ.ชุมพร ครวญ 3 ปี ที่ผ่านมา อาชีพประมงใกล้ล่มสลาย คนประมงกระทบปัญหากฎหมาย ชี้ไทยยังไม่เป็นสากล ด้าน 'สุดารัตน์' รับปากผลักดันให้เกิดความเสมอภาคด้านกฎหมาย ดันไทยแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยของโลก

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับฟังปัญหา ด้านการประมง พร้อมปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการประมง อย่างยั่งยืน และต่อยอดพัฒนาธุรกิจประมง นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังได้รับฟังปัญหาเพื่อนำไปพัฒนาเป็นนโยบายแก้ปัญหา ด้านการประมงที่เกิดขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จากสมาคมชาวประมงจากทั่วประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา การบริหารจัดการที่ไม่เข้าใจ และยินยอมทำตาม ต่างชาติโดยไม่ได้พูดจาต่อรองให้เหมาะสมส่งผลต่อรายได้ โดยเฉพาะการส่งออกสัตว์น้ำ ซึ่งอดีตเคยส่งออกได้ถึง 1.6 ล้านตันต่อปี สวนทางกับการนำเข้าสัตว์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น 

คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่า รายได้จากการประมง ควรเป็นรายได้ที่นำมาพัฒนาหรือส่งเสริมประเทศได้ อดีตเรือประมงเคยมีอยู่ถึง 80,000 ลำ ปัจจุบันมีชาวประมงที่ออกเรือประมาณ 30,000 ลำเท่านั้น เหล่านี้คือปัญหา ที่แม้จะมีเรื่องของกติกาสากลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าบริหารจัดการ อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถนำรายได้จากประมงกลับเข้าสู่ประเทศได้อีกครั้ง ซึ่งมีผลต่อการยกระดับทางเศรษฐกิจ

ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุเพิ่มเติมว่า 3-4 ปี ที่ผ่านมาประเทศเสียโอกาสให้กับเพื่อนบ้านอย่างมาก กลายเป็นจุดอ่อนอีกหนึ่งทางของประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อคนที่อยู่ในธุรกิจของประมงรวมถึงรายได้ของประเทศหดหายไป

โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะมุ่งผลักดันให้เกิดความเสมอภาคโดยเฉพาะในแง่ของกฎหมาย รวมถึงจะคว้าโอกาส ในโลกยุคใหม่ และต่อยอดไปสู่การพัฒนาครัวไทยสู่ครัวโลกซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคการเกษตร รวมถึงภาคการประมง ดังนั้นต้องมาคิดว่าทำอย่างไรให้อาหารไทยเป็นอาหารที่มีคุณภาพของโลก และเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยของโลก

ด้านนายไกรฤกษ์ มือสันทัด นายกสมาคมประมงจังหวัดชุมพร และรองประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย มองว่า อาชีพประมง ใกล้ล่มสลาย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนที่ตัดสินใจ จบชีวิต เพียงเพราะกฎหมายที่มีปัญหา และกระทบกับชาวประมง และเห็นว่ามีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวที่ชาวประมง ต้องเผชิญอุปสรรคในแง่ของกฎหมาย จากการดำเนินธุรการต่างๆ ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิมที่เคยปฏิบัติมา ประเทศไทยยังไม่เป็นสากลผู้นำก็ยังไม่เป็นสากลแต่กลับมาบอกให้ชาวประมงไทย ที่มีวิธีการดำรงชีพแตกต่างต้องเป็นสากล ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบจนอาจทำให้ประมงไทยถึงขั้นล่มสลาย ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะต้องประสบความสำเร็จ เพียงอยู่ที่การบริหารจัดการให้เป็น