ไม่พบผลการค้นหา
กทม. เก็บน้ำลายพนักงานโรงงานกลุ่มเสี่ยง 199 คน เพื่อคัดกรองเชื้อโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยยืนยัน เมื่อ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขณะยอดผู้ติดเชื้อในกทม.อยู่ที่ 40 ราย เร่งตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วย พบ 3 รายโยงสมุทรสาคร

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยง ณ โรงงาน Big Star (บิ๊กสตาร์) ถนนพระรามที่ 2 ซอย 100 เขตบางขุนเทียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมี พลเฉลิม ศรมณี ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน ร่วมลงพื้นที่ จากนั้นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมจุดสกัดและจุดคัดกรองบุคคลต่างด้าวก่อนเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร ป้องกันโควิด-19 บริเวณหน้าปั๊ม ป.ต.ท. พระราม 2 ซอย 92 เขตบางขุนเทียน

223D1F8A-6ED8-42B0-86AB-C10BC1044B33.jpeg

สืบเนื่องจากกรณีโรงงาน Big Star ได้มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนแรกเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 จากนั้นวันที่ 22 ธ.ค. 2563 สำนักงานเขตบางขุนเทียนและสำนักอนามัยได้จัดทีมเจ้าหน้าที่เข้ามาล้างทำความสะอาดและฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงงาน และวันที่ 23 ธ.ค. 2563 กรุงเทพมหานครได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำการ SWAB กลุ่มเสี่ยงสูง จำนวน 200 คน ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 3 คน เป็นแรงงานชาวพม่า 2 คน และแรงงานไทย 1 คน ซึ่งที่โรงงาน Big Star มีกลุ่มสัมผัสเสี่ยงรวมทั้งหมดประมาณ 800 คน 

สำหรับวันนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัย และศูนย์บริการสาธารณสุข 42 (ถนอม ทองสิมา) ร่วมกับสำนักงานเขตบางขุนเทียน มาดำเนินการตรวจคัดกรองกลุ่มสัมผัสเสี่ยงรองลงมาเพิ่มเติม จำนวน 199 คน ซึ่งมีทั้งแรงงานคนไทยและแรงงานต่างชาติ ด้วยวิธีการเก็บน้ำลายส่งตรวจที่แล็บของโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยขั้นตอนการดำเนินการ เริ่มด้วยการสอบประวัติผู้ตรวจ

จากนั้นผู้ตรวจรับกระปุกเก็บน้ำลายซึ่งจะมีน้ำยา normalsaline 0.9%อยู่ภายใน ให้ผู้ตรวจอมน้ำลายไว้ในปาก 5 นาที แล้วบ้วนน้ำลายอย่างน้อย 2 ซีซี ลงในกระปุก สำหรับวิธีการตรวจจากน้ำลายนี้สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้เร็วกว่าการทำ SWAB ความน่าเชื่อถือของผลการตรวจสอบอยู่ที่ 90% ส่วนการทำ SWAB ผลเชื่อถือได้ 95% ทั้งนี้หากตรวจน้ำลายแล้วพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะมีการทำ SWAB ผู้นั้นซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลการตรวจที่ชัดเจนต่อไป

F2A8CED4-0B80-4E2B-90E1-BEF5DD55B2B5.jpeg

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ว่า วันนี้สำนักงานเขตบางขุนเทียนกับศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) 42 ได้ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงงานบิ๊กสตาร์ ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีพนักงานกลุ่มเสี่ยงประมาณ 800 คน ทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ สำหรับกลุ่มเสี่ยงแรงงานข้ามชาตินั้น รัฐบาลและกรุงเทพมหานครมีนโยบายในการดำเนินการเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่จะตรวจให้ทั้งหมด ไม่อยากให้แรงงานข้ามชาติกังวลเรื่องนี้ หากพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จะใช้แนวทางการรักษาเดียวกับคนไทย เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

6D3DCF66-5C84-4686-BF59-7A56F987B39E.jpeg

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในกทม. 40 ราย

ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้ (25 ธ.ค. 2563) มีผู้ป่วยเพิ่มในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 6 ราย รวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 40 ราย โดยกรุงเทพมหานครได้สอบสวนโรคแล้วเสร็จ จำนวน 9 ราย ซึ่งในจำนวน 9 รายนี้เป็นผู้ป่วยที่เป็นคน กทม. 7 ราย และผู้ป่วยต่างจังหวัดที่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 ราย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้แถลงไทม์ไลน์ไปแล้ว คงเหลือผู้ป่วยที่รอการแถลง Timeline อีกจำนวน 31 ราย โดยวันนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยได้สอบสวนโรคแล้วเสร็จเพิ่มอีกจำนวน 4 ราย โดยทั้ง 4 ราย เชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาครทั้งสิ้น

๒๐๑๒๒๕_008_0.jpg

ทั้งนี้ นับต่อจากเดิมที่ได้เปิดเผยไทม์ไลน์ไปแล้ว ผู้ป่วยรายที่ 10 เป็นข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตดุสิต ผู้ป่วยรายที่ 11 เป็นผู้ขายของในตลาดย่านลาดพร้าว ผู้ป่วยรายที่ 12 ได้เดินทางไปซื้อสินค้าที่ตลาดทะเลไทย จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำส่งร้านอาหารย่านลาดพร้าว ผู้ป่วยรายที่ 13 เป็นผู้เดินทางไปร้านขายกุ้งในจังหวัดสมุทรสาคร

ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ที่ผู้ป่วยทั้ง 4 ราย เดินทางไปนั้นอยู่ระหว่างการขออนุญาตเจ้าของสถานที่เพื่อเปิดเผยชื่อสถานที่ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วกรุงเทพมหานครจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยเร็ว อย่างไรก็ดีกรุงเทพมหานครต้องขออภัยสื่อมวลชนและประชาชนด้วยที่ไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้ออาจจะออกช้า ทั้งนี้เนื่องจากกรุงเทพมหานครต้องสอบสวนโรคและตรวจสอบ ในขั้นตอนต่างๆ ให้มีความถูกต้องชัดเจนมากที่สุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :