ไม่พบผลการค้นหา
'เชาว์ มีขวด' รองโฆษกประชาธิปัตย์ ยืนยัน พรรคเขียนนโยบายจากความเดือดร้อนประชาชน ไม่จำเป็นต้องลอกเลียนใคร ตามที่รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวพาดพิง

นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมากล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่าลอกนโยบายพรรคพลังประชารัฐนั้น

นายเชาว์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ก่อตั้งมากว่า 72 ปี มีอุดมการณ์และนโยบายที่อยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด รวมทั้งมีบุคลากรของพรรคที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในทุก ๆ ด้าน ดังนั้น นโยบายของพรรคทุกนโยบายจึงผ่านการกลั่นกรองของคณะทำงานนโยบายมาเป็นเวลายาวนาน 

สำหรับนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ เกิดจากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดในช่วงเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาแม้ไม่มีสภา แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ และคณะอดีต ส.ส. ของพรรคฯ ก็ลงพื้นที่ รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนของประเทศมาโดยตลอด และต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าตลอดระยะเวลา 4-5 ปี ที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชนได้ โดยเฉพาะปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน พี่น้องประชาชนอยู่กันด้วยความยากลำบาก รัฐบาลโดย คสช. ใช้ ม. 44 แก้ไขปัญหาเรื่องอื่นๆ แต่ไม่เคยใช้ ม. 44 มาช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรเลย พรรคได้รับฟังปัญหาเหล่านี้ จึงได้นำมาแปลงเป็นนโยบายพรรค เพื่อเสนอต่อพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

เชาว์.jpg
  • เชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์

รองโฆษกประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า นโยบาย "แก้จน สร้างคน สร้างชาติ" ของพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า

1. แก้จน เช่น การสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มเงินจากเดิม 500 บาทเป็น 800 บาท และสามารถกดเงินสดออกมาใช้จ่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านร้านค้าธงฟ้าเพียงอย่างเดียว นโยบายโฉนดสีฟ้า ด้วยการต่อยอดจากนโยบายโฉนดชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงในที่ดินทำกิน มีโฉนดภายใน 4 ปี นอกจากนี้จะยกระดับที่ดิน สปก. ให้สามารถเอาไปใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนทำมาหากินได้ อีกด้วย

ส่วนปัญหาเรื่องน้ำ พรรคประชาธิปัตย์ จะให้มีกองทุนน้ำชุมชน โดยให้ชุมชนบริหารจัดการขุดแหล่งน้ำ และกระจายน้ำเข้าสู่ไร่นา พร้อมทั้งให้ มีระบบประกันราคาพืชผลทางการเกษตร 

และยังมีเรื่องของการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้มากกว่า 120,000 บาทต่อปี เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเงิน อสม. เป็น 1,000 บาทต่อเดือน 

2. สร้างคน เช่น นโยบายเกิดปั๊บรับสิทธิ์แสน เราจะให้เงินเด็กแรกเกิด 5,000 บาท และจ่ายให้ทุกเดือน เดือนละ 1,000 บาท จนกว่าจะถึง 8 ขวบ นอกจากนี้จะปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพิ่มสิทธิ์วันลาคลอดให้นานขึ้น อาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรีจนถึงมัธยมศึกษา เรียนฟรีจนถึงชั้น ปวส. และส่งเสริมการศึกษาสายอาชีพให้เชื่อมโยงกับเอกชนเพื่อให้จบแล้วมีงานทำทันที แจกคูปองเพิ่มทักษะ 3,500 บาทจำนวนหนึ่งล้านคนต่อปี 

3. สร้างชาติ เช่น นโยบายการปราบปรามยาเสพติด ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น เป็นใจด้วย พรรคประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายที่จะเพิ่มอำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป ส.) มีอำนาจในการทำสำนวนส่งฟ้องคดีต่อศาลเอง นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายการกระจายอำนาจ โดยให้ประชาชนเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดได้ด้วยตนเอง 

“พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยลอกนโยบายของพรรคการเมืองใด พรรคมีความพร้อมด้านนโยบายที่เป็นรูปธรรมและสามารถปฏิบัติได้จริงอย่างชัดเจน ทุกนโยบายของประชาธิปัตย์มีที่มาของแหล่งเงิน และไม่ทำให้บ้านเมืองล้มละลาย ยืนอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง” รองโฆษกประชาธิปัตย์ กล่าว