ไม่พบผลการค้นหา
เฟซบุ๊กไล่ลบคลิปที่มือปืนในนิวซีแลนด์ถ่ายทอดสดการกราดยิง 2 มัสยิดเมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เทคโนโลยีช่วยตรวจสอบเนื้อหายังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ

หลังเกิดการจู่โจมมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 50 ราย และบาดเจ็บอีก 48 คน ตามข้อมูลอัพเดทล่าสุด เฟซบุ๊กออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าได้มีการลบคลิปที่เกี่ยวข้องกับการบุกมัสยิดดังกล่าวไปแล้วกว่า 1.5 ล้านคลิป ภายในเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังการจู่โจม

ก่อนหน้าจะเกิดเหตุกราดยิง ผู้ก่อเหตุได้โพสต์ลิงก์ของกลุ่มชาตินิยมผิวขาวลงบนทวิตเตอร์และฟอรั่ม 8chan ทั้งยังโพสต์ลิงก์ไปยังเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้ก่อเหตุที่เผยแพร่การกราดยิงสังหารหมู่ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์

หลังจากนั้น คลิปวิดีโอความยาว 17 นาทีได้ถูกโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย สันนิษฐานว่าถ่ายมาจากกล้องบนหมวกกันน็อกของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเดินไปหยุดตรงหน้าประตูมัสยิดและกราดยิงคนที่อยู่ข้างในนานเกือบ 2 นาที ก่อนกลับขึ้นรถไปหยิบปืนอีกกระบอก แล้วมาจ่อยิงผู้คนต่อ

“ใน 24 ชั่วโมงแรก เราลบคลิปการจู่โจมจากทั่วโลกไปกว่า 1.5 ล้านคลิป และในจำนวนนั้นเราห้ามไม่ให้มีการอัพโหลดมากกว่า 1.2 ล้านคลิป...” เฟสบุ๊กแถลงในทวิตเตอร์

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กยังดำเนินการลบคลิปดัดแปลงทั้งหมดที่ไม่ให้ความเคารพต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้ขณะที่ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่าเธอต้องการหารือกับเฟซบุ๊กในประเด็นกำกับดูแลการถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กด้วย

เจตนาดี แต่คุณภาพไม่ได้

แม้ช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เฟซบุ๊กจะแสดงความพยายามในการกำกับดูแลวิดีโอและการถ่ายทอดสดด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ หรือการจ้างพนักงานคอยตรวจสอบเนื้อหาที่มีความรุนแรงต่างๆ แต่ก็เหมือนจะยังไม่มีผลลัพธ์ใดเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอไอ

ไมค์ ชรอปเฟอร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของเฟซบุ๊ก กล่าวในบทสัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์จูนว่า ความฉลาดของเอไอของเฟซบุ๊กในขณะนี้อยู่ในขั้นที่สามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างรูปบรอกโคลีกับรูปกัญชาได้ ถึงร้อยละ 90 ซึ่งอาจเป็นการสื่อว่า เฟซบุ๊กสามารถตรวจสอบการลักลอบขายกัญชาบนแพลตฟอร์มได้

อย่างไรก็ตาม แฮร์รี่ ฟาริด ศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์รูปภาพและกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลจากวิทยาลัยดาร์ตมัธ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ด้วยจำนวนการโพสต์กว่าพันล้านครั้งของผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊ก อัตราส่วนความผิดพลาดที่ร้อยละ 10 ไม่ดีเพียงพอ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงอีกมากเพื่อไปให้ถึงจุดที่มีข้อผิดพลาดต่ำที่สุด

“(เอไอ) บอกความแตกต่างของบรอกโคลีกับกัญชาไม่ได้ เอาแค่บอกว่าวิดีโอเป็นหนัง วิดีโอเกม สารคดีสงคราม หรือคนบ้าที่พยายามฆ่าคนในมัสยิด” ฟาริด กล่าว

แม้เฟซบุ๊กจะแสดงเจตนารมณ์ในการควบคุมดูแลเนื้อกที่อยู่บนแพลตฟอร์มของตนอย่างจริงจัง ทั้งการลงทุนในมนุษย์เพื่อคอยสอดส่องดูแลและการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่บริษัทกล่าวว่ามีความก้าวหน้า แต่คลิปการสังหารหมู่ในนิวซีแลนด์ก็ยังสามารถรอดหูรอดตาจากทั้งเจ้าหน้าที่เฟซบุ๊กและเอไอออกไปสู่สายตานับล้านๆ คู่บนโลกออนไลน์ในท้ายที่สุด

อ้างอิง; CNN, Reuters

ข่าวที่เกียวข้อง :