การคาดการณ์ตัวเลขการติดเชื้อ 1 ล้านรายต่อวัน ถูกเรียกว่า โอไมครอน “สึนามิ” โดยถึงแม้ว่ามันจะยังไม่มีความชัดเจนว่าปรากฏการณ์ติดเชื้อโอไมครอนแบบถล่มทลายจะเกิดในลักษณะใด แต่ภาพรวมของการติดเชื้อครั้งใหญ่กำลังเริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หลังลอนดอนพบว่าผู้ติดโดคิด-19 รายใหม่กว่า 40-50 เปอร์เซ็นต์นั้น ล้วนเป็นผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั้งสิ้น
เชื้อสายพันธุ์อัลฟาที่เคยแพร่ระบาด ส่งผลให้ประชากรสหราชอาณาจักรที่ติดโควิด-19 ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 22 เปอร์เซ็นต์ โดยมักเป็นกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป และถึงแม้ว่าเชื้อเดลตาที่กำลังระบาดอยู่จะสามารถถูกควบคุมเอาไว้ได้ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส แต่เชื้อโอไมครอนที่กำลังระบาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลับถูกสันนิษฐานว่ามันสามารถหลบหลีกวัคซีนได้ดีกว่าเชื้อกลายพันธุ์อื่นๆ
ปัจจุบันนี้ ทางการของสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อโอไมครอนในประเทศอาจมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วงสัปดาห์ระหว่างวันคริสต์มาสกับวันปีใหม่ หรืออย่างช้าที่สุดอาจจะเป็นช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมที่จะถึงนี้
ถึงแม้ว่าเชื้อโอไมครอนจะไม่ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อส่วนมากมีอาการป่วยหนักก็ตาม แต่ถ้าหากสหราชอาณาจักรเกิดการติดเชื้อวันละ 1 ล้านราย ก็อาจทำให้ระบบสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ เพราะคนนับล้านจะกรูกันเข้าไปยังโรงพยาบาลพร้อมๆ กัน
การติดเชื้อโอไมครอนอาจไม่ส่งผลกระทบต่ออาการป่วยที่รุนแรง แต่สหราชอาราจักรคาดว่ามันจะกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศในระลอกใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากคนจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ เพราะต้องคอยแยกกักตัว รักษาโรค และดูแลคนอื่นๆ ตลอดจนระบบขนส่งสาธารณะที่อาจหยุดชะงักลงอีกครั้ง
ปัจจุบันนี้ สหราชอาณาจักรทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี PCR กว่าวันละ 800,000 ราย โดยพวกเขามักพบว่ามีคนติดเชื้อต่ำกว่าครึ่งจากผู้ที่ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และถ้าหากเกิดการติดเชื้อโอไมครอนแบบสึนามิขึ้นมา การตรวจหาเชื้อในแต่ละวันจะไม่เกิดประโยชน์อะไร ในขณะที่ผู้คนจะไม่ทราบว่ารอบตัวมีใครติดเชื้อโอไมครอนบ้าง ทางออกที่ดีที่สุด ยังคงเป็นการฉีดวัคซีน สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และรักษาความสะอาดมือเช่นเคย
ที่มา: