วันที่ 22 มี.ค. ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงถึงพรรคก้าวไกลว่ายิ่งเหมือนประชาธิปัตย์ขึ้นทุกวัน โดยระบุว่า ตนขอปฏิเสธชัดเจน ทั้งพรรคก้าวไกลและอดีตพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะจุดยืนเรื่องนโยบายทางการเมือง ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน 

ส่วนที่ ทักษิณ กล่าวถึง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ว่าไปวิจารณ์พรรคเพื่อไทย ส่วนตัวยังไม่ทราบว่า ทักษิณ วิจารณ์ส่วนไหน ซึ่งมีบางคนคาดการณ์ว่า ธนาธร ให้ความเห็นต่อสื่อว่ามีพรรคการเมืองต่างๆ ดูด ส.ส. ย้ายพรรคกันไปมา ไม่ได้สนใจอุดมการณ์ทางการเมืองว่าเป็นอย่างไร จุดยืนทางการเมืองในอดีตเป็นอย่างไร 

ชัยธวัช ย้ำว่า ธนาธร ไม่ได้พูดถึงพรรคเพื่อไทย แต่พูดถึงการเมืองไทยที่เป็นอยู่โดยรวม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ประชาชนรับรู้ ในส่วนพรรคก้าวไกลไม่ได้มีวิธีการทำงานการเมืองแบบนั้น

เมื่อถามว่าจะทำให้รอยร้าวระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้นหรือไม่ การแข่งขันทางการเมืองในช่วงเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติที่แต่ละพรรคจะถกเถียง กระทบกระทั่งกัน ตราบใดที่ยังอยู่ในกฎกติกา ไม่ทำให้การเลือกตั้งผิดไปจากปกติ ไม่บริสุทธิ์หรือเป็นธรรม ตนมองว่าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนชัดเจน ว่ารัฐบาลก้าวไกลเป็นอย่างไร ทุกวันนี้โฟกัสอยู่กับนโยบาย และประชาชนเป็นเรื่องหลัก

ส่วนจุดยืนในการจับมือร่วมรัฐบาล พรรคได้ย้ำไปหลายครั้งแล้วว่า ไม่จับมือกับพรรคทหารอย่างรวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ และต้องไปดูนโยบายของพรรคอื่นที่เห็นด้วย 

เมื่อถามถึงกระแสวิจารณ์ของพรรคก้าวไกลที่หาเสียงโจมตีพรรคอื่น มีการสาดโคลนจนหลายคนมองว่าไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ ชัยธวัช ปฏิเสธ หากไปดูเนื้อหาการรณรงค์หาเสียง ยังคงเน้นเรื่องนโยบาย ว่าแตกต่างจากพรรคอื่นอย่างไร เป็นเรื่องปกติของสังคมที่เวลากระทบกระทั่งกันจะเป็นจุดสนใจ จนกลบเนื้อหาอื่น 

"อย่างกรณี อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็เป็นความในใจของคนเสื้อแดงคนหนึ่ง ที่มีความอัดอั้นและจริงจังในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และอยากทวงคืนความเป็นธรรมให้พี่น้องคนเสื้อแดง ที่เสียสละชีวิตในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา"

เหมือนถามว่าเป็นการทิ้งบอมบ์ของ อมรัตน์ หรือไม่ เพราะไม่ได้ลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อในสมัยหน้า ชัยธวัช มองว่าไม่ใช่ และอาจมีหลากหลายความเห็นตามมา

ทั้งนี้ ชัยธวัช ย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว แต่มองว่าเป็นความโดดเด่น มีความแตกต่างระหว่างอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล จากพรรคอื่นๆ ที่เคยมี

เมื่อถามว่า ธนาธร มาช่วยหาเสียงจนถูกมองว่ามีความสำคัญมากกว่าผู้นำของพรรค นายชัยธวัช มองว่าเป็นการระดมกำลังสู้ศึกเลือกตั้งมากกว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องการประสบความสำเร็จมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นการสานต่อจากพรรคอนาคตใหม่มาก้าวไกล และเชื่อว่า พิธา ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ได้ความนิยมสูงสุด 

ขณะที่ ธนาธร เป็นผู้ช่วยหาเสียงจริงๆ ยืนยันว่า นายธนาธร ไม่ได้ออกความคิดเห็นในแนวทางต่างๆ ขอพรรค พร้อมโต้แย้งกรณีมีผู้วิจารณ์ เพราะให้สัมภาษณ์ว่า "ผมให้ ส.ส.ของผม ไปหาเสียงให้ได้เกิน 251 เสียง" ข้อเท็จจริงคือ ธนาธร พูดถึงสมัยพรรคอนาคตใหม่ เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น