วันที่ 15 ธ.ค. เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า ได้ติดตามการทำงานของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับคดีคืนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ เพื่อดูว่า ป.ป.ช.จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้เกี่ยวข้องที่ศาลฎีการะบุไว้ในคำพิพากษาหรือไม่
เรืองไกร กล่าวว่า ตามคำพิพากษาคดีดังกล่าว ระบุว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157
ดังนั้น ตามคำพิพากษาย่อมจะเห็นได้ว่า ความผิดของจำเลยย่อมผูกพันเกี่ยวข้องกับ อิทธิพร บุญประคอง กับพวก ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในขณะเกิดเหตุตามคดีนี้ด้วย
แต่หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาถึงที่สุด กลับไม่เห็น ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ และเวลาล่วงเลยมานานแล้ว จน ป.ป.ช.ชุดเก่าพ้นหน้าที่ และ ป.ป.ช.ชุดใหม่เข้ามาแทนที่แล้ว
เรืองไกร กล่าวต่อว่า เนื่องจากปัจจุบัน อิทธิพร เป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติด้วยว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ขอให้ข้อสังเกตว่า คดีนี้ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวนมาโดยตลอด ประกอบกับตามคำพิพากษาดังกล่าว ป.ป.ช. ต้องรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า อิทธิพร กับพวก อยู่ในกระบวนการด้วย
ดังนั้น อิทธิพร กับพวก จึงควรถูก ป.ป.ช.ชี้มูลเพื่อให้ศาลที่มีเขตอำนาจได้พิพากษาต่อไปว่า จะมีความผิดตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
เรืองไกร กล่าวสรุปว่า ดังนั้นเช้าวันนี้ ตนได้ส่งหนังสือพร้อมสำเนาคำพิพากษาบางหน้าซึ่งเกี่ยวข้องไปจี้เตือน ป.ป.ช. ให้รีบดำเนินการต่อไป ทางไปรษณีย์ EMS แล้ว