แฮชแท็กท้าทายเพื่อความเปลี่ยนแปลง #ChallengeForChange กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ชวนให้ผู้ใช้เน็ตลุกขึ้นมาทำกิจกรรมเก็บขยะในพื้นที่ต่างๆ โดยเพจเฟชบุ๊ก We Don't Deserve This Planet เป็นผู้เริ่มรณรงค์ท้าให้คนทั่วโลกเก็บขยะ หรือ ทำความสะอาดในพื้นที่ที่ต้องการเก็บกวาด และโพสต์ภาพลงโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟชบุ๊กและทวิตเตอร์
กิจกรรมดังกล่าวท้าให้ผู้ที่ทำแชลเลนจ์ถ่ายรูปตนเองกับพื้นที่ที่ต้องการจะทำความสะอาด หรืออยากเก็บกวาด และให้ถ่ายรูปหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเพื่อเปรียบเทียบสภาพ 'ก่อน' และ 'หลัง' ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับจากโลกออนไลน์เป็นอย่างดีทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะการทำความสะอาดพื้นที่ธรรมชาติ
ในปี 2016 ธนาคารโลกระบุว่าปริมาณขยะในแต่ละวันเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ล้านตัน หรือคิดเป็น 0.74 กิโลกรัมต่อประชากร 1 คน โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้มีปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบวันละ 1 ล้านตัน หรือประมาณ 300 ล้านตันต่อปี และขยะพลาสติกกว่าอีก 8 ล้านตันนั้นได้ไหลลงสู่ทะเลในแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีการประเมินด้วยว่า ภายในปี 2050 ขยะทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึงวันละ 3,400 ล้านตัน หรือคิดเป็นอัตราส่วนถึง 70 เปอร์เซ็นนับจากปัจจุบัน
ทั้งนี้ การจัดการปัญหาขยะที่ล้นเมืองทั่วโลกนั้นยังเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มกำลังพัฒนาและประเทศด้อยพัฒนา ซึ่งงบประมาณการจัดการขยะอย่างยั่งยืนนั้นเป็นงบประมาณที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะต้องใช้งบสูงถึงร้อยละ 20 -50 ของงบประมาณการจัดการเมืองเลยทีเดียว
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของการกำจัดขยะในประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนานั้นจะเป็นการเผาเพื่อทำลายหรือฝังกลบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล่้อมและระบบนิเวศใต้ดินในทางหนึ่งด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง