นายภูมิธรรม เวชยชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดที่คนในประเทศนั้นทุกคน ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตามลายลักษณ์อักษรที่ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญ ประเทศนั้นๆ จึงถือเป็นประเทศที่มีนิติรัฐ นิติธรรมซึ่งได้รับความเชื่อถือและการยอมรับในสังคมโลก
การที่นายกรัฐมนตรีกระทำผิดรัฐธรรมนูญภายใต้ระบอบการปกครองประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข จึงถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ควรนิ่งเฉย เพราะนี่ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องพิธีกรรมแต่ คือการธำรงไว้ซึ่งแบบอย่างในการปฎิบัติตามกฎหมายสูงสุดของประเทศ
นายภูมิธรรม ยังบอกด้วยว่า การพยายามใช้คำอธิบายแบบง่ายๆ ว่า "มันจบและผ่านมาแล้ว ขอให้ยุติและผ่านไปได้แล้ว" หรือ "นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีความตั้งใจ กระทำผิด ถือเป็นความผิดพลาดเล็กน้อยอย่าใส่ใจ" หรือ "ไม่ทราบว่าจะหาทางออกอย่างไร คิดได้แล้วจะบอก" ฯลฯ ล้วนเป็นคำแก้ตัว ที่มุ่งหวังให้เหตุการณ์ต่างๆ นั้นผ่านพ้นไปโดยมิได้ มีการแสดงความรับผิดชอบในแบบฉบับตามวิถีทางรัฐธรรมนูญที่ "คนในระบอบประชาธิปไตยพึงมี"
ดังนั้น การกระทำความผิดของนายกรัฐมนตรี ต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่การอธิบายว่า "ไม่ได้มีเจตนา" และ "ขอให้ผ่านพ้นไป" คำอธิบายง่ายๆ เหล่านี้ "ไม่เพียงพอและ ใช้ไม่ได้" โดยนายภูมิธรรม แสดงความคิดเห็นไว้ว่า อย่าทำให้ประเทศนี้ง่ายไปทุกเรื่อง อะไรที่ควรง่ายก็รีบทำให้ง่าย แต่อะไรที่ควรเคร่งครัดและควรปฏิบัติอย่างมีหลักเกณฑ์ก็ควรทำอย่างเคร่งครัด มีหลัก มีเกณฑ์ มิฉะนั้นจะกลายเป็นประเทศแบบไม้หลัก ปักขี้เลน ใช้หลักการตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย เพื่อประโยชน์ฝ่ายตนและทำลายฝ่ายตรงข้ามที่คิดต่าง
วันนี้ประเทศถอยหลังไปมากแล้ว อย่าสร้างบรรทัดฐานแบบผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้เป็นปัญหากับการก้าวเดินไปข้างหน้าของประเทศ ตนคิดว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องตระหนักถึงความสำคัญเรื่องนี้ และรับผิดชอบต่อการการกระทำของท่านอย่างกล้าหาญ