ไม่พบผลการค้นหา
"ภูมิธรรม" เรียกร้องพรรคการเมืองจับมือแก้รัฐธรรมนูญฉบับพิสดาร ชี้ พลังประชารัฐขู่ยุบสภาต่อรองไม่ลงตัวทำประชาชนเสียประโยชน์

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า มาถึงวันนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายคงได้ประจักษ์ถึงความบิดเบี้ยวที่พิสดารของรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานของ คสช. และพวกที่ออกแบบมาเพื่อหวังการสืบทอดอำนาจประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

"วันนี้เราจึงได้เห็นลีลาทางการเมืองของพรรคฝ่ายที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจซึ่งมีพลังประชารัฐเป็นแกนนำพยายามจะจัดตั้งรัฐบาลซึ่งยังจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัวและดูเหมือนว่าการเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลนั้นหนทางที่จะร่วมมือกันดูจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ ทั้งนี้หากจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพเนื่องจากเสียงในสภาที่สนับสนุนนั้นอยู่ในสภาพปริ่มน้ำ" นายภูมิธรรม ระบุ

นายภูมิธรรม ระบุว่า ที่เลวร้ายกว่านั้นวันนี้มีข่าวว่าหากการร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จอย่างที่ผู้มีอำนาจตั้งความหวังไว้ถึงขั้นมีการกล่าวอ้างว่าอาจจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วจะยุบสภา ซึ่งสภาพดังกล่าว ได้สะท้อนให้เห็นว่า“การต่อรองทางการเมือง นับวันจะเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้นลงง่ายๆ”

จากนี้ไปปัญหาของประเทศ และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจะยิ่งได้รับการเหลียวแลลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญและจะยิ่งยากลำบากในการแสวงหาหนทางในการคลี่คลายปัญหา การเมืองภายใต้กลุ่มผู้มีอำนาจกลุ่มเดิมนี้ ทำให้ปัญหาของประเทศและประชาชนที่เดือดร้อนที่กำลังต้องการการแก้ไข กลับต้องสะดุดเพราะความพยายามของพลังประชารัฐที่จะให้ อดีตนายกทำหน้าที่ต่อ“ประชาชนอยู่ตรงไหน” ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจและจัดสรรผลประโยชน์ของกันและกัน

ทั้งนี้ หากดูผลการเลือกตั้งล่าสุด ที่เชียงใหม่ เขต 8…ซึ่งพรรคฟากฝั่งประชาธิปไตยได้คะแนนอย่างท่วมท้นถือเป็นการยืนยัน “เจตนารมณ์ของ ประชาชนที่ต้องการหลุดพ้นจากการบริหารแบบเดิมๆของพล.อ.ประยุทธ์และ คณะฯ”แต่ผลการคำนวณคะแนนสัดส่วน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จากการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นรูปธรรมที่ชี้ชัดว่า…“ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฏกติกาพิสดารทั้งหลาย ที่สร้างความสับสนให้ประเทศ”

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังระบุด้วยว่า อยากเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคที่เคยได้รับผลกระทบจากกติกาของผู้มีอำนาจมาร่วมผนึกกำลังกันเพื่อต่อรองผลประโยชน์ให้กับประชาชน ถึงวันนี้ก็ยังไม่สาย


" การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พิสดาร และการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน พรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยต้องร่วมมือกัน เพื่อช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศ จนถึงวันนี้ หากพรรคใดจะเปลี่ยนใจก็ยังไม่สายเกินไปประชาชนรอพิสูจน์คำสัญญาที่ทุกพรรคการเมืองได้เคยประกาศไว้ อย่าให้ปร���ชาชนผิดหวังนะครับ" นายภูมิธรรม ระบุ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :