ไม่พบผลการค้นหา
‘สุชัชวีร์’ ลงพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน รัวทำคะแนน เสนอไอเดียแก้น้ำเซาะฝั่ง ลั่นจะเยือนให้ครบ 50 เขต กทม. มั่นใจกระแสไม่ตก

วันที่ 28 ธ.ค. 2564 'ดร.เอ้' สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามพรรคประชาธิปัตย์ สารัช ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางขุนเทียน สากล ม่วงศิริ อดีต ส.ส. 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ และคณะทำงาน ลงพื้นที่ชุมชนชายทะเล เขตบางขุนเทียน กทม. เพื่อพบปะกับตัวแทนชุมชนและรับฟังปัญหาต่างๆ โดยเริ่มลงพื้นที่เมื่อประมาณ 7.10 น. บริเวณสะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน จากนั้นสุชัชวีร์และคณะได้ปั่นจักรยานเลาะชายฝั่งเข้าสู่พื้นที่ป่าชายเลน ก่อนลงสำรวจพื้นที่บริเวณจุดชมวิวซึ่งกำลังมีการปลูกต้นโกงกาง 

สุชัชวีร์ระบุว่าชุมชนนี้มีปัญหาหลักคือน้ำท่วมและน้ำทะเลหนุนสูงกัดเซาะพื้นที่มากขึ้นทุกปี ปัจจุบันกินพื้นที่เข้ามากว่า 2 กม. แล้ว แต่เมื่อตนเองได้เห็นเขื่อนกั้นน้ำที่ กทม. สร้างไว้ก็เศร้าใจ เนื่องจากเป็นเพียงเขื่อนไม้ไผ่ซึ่งไม่แข็งแรง สักปีสองปีก็จะเสื่อมสภาพ และเมื่อไม่ไผ่หักพังแล้วก็จะไหลเข้าสร้างความเสียหายแก่ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน เช่นเดียวกับเขื่อนรอบนอกที่สร้างจากเสาไฟฟ้าที่การไฟฟ้านครหลวงบริจาคมา แม้จะแข็งแรงกว่าไม้ไผ่ แต่ไม่นานเสาจะเอียงและหักพัง จึงถือเป็นการช่วยเหลือเพียงชั่วคราวเท่านั้น

หลังจากนั้น สุชัชวีร์เข้าพูดคุยกับตัวแทนชุมชนชายทะเลบางขุนเทียน ชุมชนเสาธง และชุมชนแสนตอ เพื่อหารือปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งและเขื่อนเสื่อมโทรม โดยเสนอว่าในต่างประเทศที่มีปัญหาน้ำทะเลหนุน เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย หรือแถบยุโรป จะนิยมใช้วิธีถมด้วยหินเทียมจากการหล่อคอนกรีต มีลักษณะสามขา ซึ่งการถมด้วยหินเทียมมีข้อดีคือมีน้ำหนักมาก นอกจากนั้นยังมีช่องให้สัตว์น้ำสามารถเข้าไปวางไข่ได้ ไม่กระทบกับการทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการหล่อคอนกรีตที่บริษัทของไทยสามารถทำได้

สุชัชวีร์เผยกับผู้สื่อข่าวว่าการลงพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียนครั้งนี้ ตนเป็นผู้เสนอมาเอง ไม่เกี่ยวข้องกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อีกหนึ่งผู้สมัครฯ ที่เคยมาลงพื้นที่บริเวณนี้ก่อนแล้วเมื่อ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยสุชัชวีร์ระบุว่าตั้งใจจะไปให้ครบทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในเขตบางขุนเทียนที่มีปัญหาน้ำกัดเซาะเป็นปัญหาเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา ซึ่งตนมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีแผนจะรักษากระแสนิยมของตนอย่างไร เพราะอีกนานกว่าจะถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ สุชัชวีร์ เชื่อว่าการลงพื้นที่สามารถช่วยเพิ่มกระแสนิยมให้มากขึ้นตามช่วงเวลา เพราะจะทำให้ประชาชนได้รู้จักคุ้นเคยกับตนมากยิ่งขึ้น และนอกจากเรื่องกระแสแล้ว หากตนลงสมัครผู้ว่าฯ โดยไม่ได้เข้าใจในพื้นที่อย่างแท้จริงก็อาจจะเสียเปรียบ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงความเห็นต่อการตั้งฉายารัฐบาลประจำปีโดยสื่อมวลชนซึ่งเปิดเผยออกมาเมื่อวาน สุชัชวีร์ระบุว่า ตนไม่มีความเห็นอะไร มองว่าเป็นของขวัญประจำปีที่สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนมากกว่า สำหรับกิจกรรมในช่วงบ่าย สุชัชวีร์และคณะ จะเดินทางเข้าพบปราชญ์ชาวบ้าน ไทยรามัญ กัลยา ปุงบางกระดี่ เพื่อหารือถึงแนวทางการจัดท่องเที่ยว 2 วัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สามารถช่วยสร้างรายได้ให้คนในชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากได้