31 ส.ค.66 เวลา 09.30 น.พนักงานอัยการจังหวัดชุมแพ ได้นำตัว สมศักดิ์ (ขอสวงนนามสกุล) ส่งฟ้องยังศาลจังหวัดชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่า ทำไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยซึ่งเป็นสมาชิกของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เพราะไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง ศาลให้ประกันตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ แต่ให้ทำสัญญาประกันไว้ 50,000 บาท
พนักงานอัยการจังหวัดชุมแพ กล่าวหาจำเลยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2565 จำเลยได้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์โนนสามพันตา บ้านโนนศิลา หมู่ที่ 9 ต.ขัวเรียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น อันเป็นการก่นสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และจำเลยได้ทำการเลื่อย ตัดโค่น ไม้ติ้ว อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.ไม้หวงห้ามธรรมดา เป็นกองฟืน 1 กอง ปริมาตรรวม 0.10 ลูกบาศก์เมตร
เมื่อเวลา 09.30 น.เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการจังหวัดชุมแพได้นำคำฟ้องมายื่นต่อศาลจังหวัดชุมแพ และนำตัวจำเลยลงไปคุมขังยังห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา บริเวณชั้นล่างของศาล โดยมีทนายความของศูนย์ศึกษาและพัฒนานักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) ไปดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกันต่อศาล โดยให้เหตุผลต่อศาล ว่า
"กรณีนีี้ จำเลยไม่ได้กระทำความผิดเยี่ยงอาชญากร แต่เป็นการที่จำเลยเป็นชาวบ้านที่ทำกินและอยู่อาศัยในพื้นที่มาตั้งแต่ก่อนปี 2530 โดยพื้นที่สาธารณประโยชน์โนนสามพันตาได้มีประชาชนอาศัยอยู่นับ 40 ครัวเรือน และได้ร่วมกันยื่นขอออกเป็นโฉนดชุมชนเมื่อปี พ.ศ.2553 และปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่ออกโฉนดชุมชน จากนั้นเวลา 11.30 น.ศาลได้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยโดยไม่มีหลักประกัน แต่ให้ทำสัญญาประกันไว้ 50,000 บาท (กรณีหลบหนี)"
เมื่อได้รับการปล่อยตัวออกมา สมศักดิ์ กล่าวว่า บริเวณ “โนนสามพันตาสาธารณประโยชน์” พื้นที่ดังกล่าวนั้นข้าฯ และชาวบ้านได้ขอมีการยื่นขอออกเป็นโฉนดชุมชนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการของหน่วยงานรัฐก็ดำเนินการเรื่อยมาจนปัจจุบัน ในระหว่างนั้นชาวบ้านก็ได้เข้าร่วมเรียกร้องต่อหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้แก้ไขปัญหามาโดยตลอด
กระทั่งเมื่อปี 2565 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ได้มีข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลเพื่อให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จนรัฐบาลได้มีมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 เห็นชอบในหลักการ โดยมอบหมายให้ สคทช.รับหลักการขอให้ยกระดับโฉนดชุมชนให้เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดที่ดินตามมาตรา 10 (4) ของ คทช.ต่อไป
ซึ่งประเด็นเรื่องโฉนดชุมชนดังกล่าวนั้นต่อมาคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ พีมูฟ ได้มีการเสนอของส่วนราชการให้เรียนต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีทราบเพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่องตามหน้าที่และอำนาจต่อไป โดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เป็นผู้ลงนามในหนังสือฉบับดังกล่าว และเพื่อสนองนโยบายการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ต่อมาจังหวัดขอนแก่นจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินของพีมูฟกรณีที่สาธารณประโยชน์ “โนนสามพันตา” เพื่อตรวจสอบขอบเขตพื้นที่ชุมชนและข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำโครงการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในที่สาธารณประโยชน์ เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาชนบท ตามนโยบาย คทช.แปลง “โนนสามพันตา” โดยนายสมศักดิ์ เป็นผู้มีรายชื่อเป็นคณะทำทำงานในลำดับที่ 17 ด้วย
ทั้งนี้ศาลจังหวัดชุมแพได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 21 ก.ย.66 เวลา 10.00 น. โดยสมศักดิ์ จะได้เข้าไปหารือกับคณะทำงานด้านกฎหมายของศูนย์ศึกษาและพัฒนานักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน,เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) เพื่อกำหนดแนวทางการต่อสู้คดี เป็นการต่อไป