วันที่ 25 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณารร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 แถลงความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
โดย จุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานด้านการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในโครงการฯ ได้ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ มีการเตรียมการนัดหมาย เพื่อเข้าสู่คณะกรรมการชุดใหญ่ซึ่งมีไทม์ไลน์ที่ค่อนข้างจะชัดเจนขึ้นทุกวัน แต่ในเรื่องการกำหนดวันเริ่มต้นโครงการอาจจะต้องวางเป็นกรอบเวลากว้างๆ
โดยในวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะมีการนัดหมายคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้คณะอนุกรรมการฯ ไดัรายงานความคืบหน้า รวมถึงสิ่งที่หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ได้ตอบคำถามมาแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการส่งคำถามไปแล้วกว่า 100 หน่วยงานในทุกภาคส่วน และมีการส่งคำตอบกลับมาเกือบครบถ้วน ทั้งนี้ ยังมีเวลาให้ถึงวันที่ 29 มี.ค. แล้วจึงมีการสรุปรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จุลพันธ์ เปิดเผยอีกว่า จะมีการนำรายงานข้อเสนอแนะที่เป็นทางการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบ และจะมีการมอบหมาย ซึ่งนำเสนอโดยกระทรวงการคลัง ในเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อหากลไกในการเดินหน้าโครงการให้กับคณะกรรมการฯ ได้รับทราบ
นอกจากนี้จะมีการมอบหมายให้แต่ละส่วนงานไปดำเนินการในรายละเอียดตามกรอบต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ซึ่งมีตนเป็นประธาน ร่วมประชุมหาข้อสรุป เพื่อนำส่งคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่อีกครั้ง
จุลพันธ์ ยังกล่าวถึงกำหนดนัดประชุมกรรมการฯ ชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ว่า คณะกรรมการฯ ชุดใหญ่จะสรุปรายละเอียด และเงื่อนไขโครงการทั้งหมด เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเดินหน้าต่อไป เชื่อว่า คงจะสามารถส่งเข้า ครม. ภายหลังการประชุมได้ในระยะเวลาไม่นาน และเราได้วางกรอบการทำงานที่มีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งกรอบกฏหมาย กรอบวงเงิน กรอบทางเทคนิคในด้านระบบต่างๆ
ทั้งนี้ ได้กำหนดในเบื้องต้นว่า ไตรมาส 3 ของปีนี้ จะมีการลงทะเบียนร้านค้า และลงทะเบียนประชาชน ย้ำว่า ระบบค่อนข้างพร้อมแล้ว และในไตรมาส 4 ของปีนี้ ก่อนสิ้นปีจะมีการเติมเงิน 10,000 บาทแน่ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน เพื่อให้ถึงมือประชาชนทุกคนที่อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
สำหรับแหล่งที่มาของเงินจะเป็นงบประมาณฯ หรือ พ.ร.บ. เงินกู้ จุลพันธ์ กล่าวว่า ขอให้รอมติคณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ เพราะมีข้อเสนอต่างๆ ที่ต้องพูดคุยกัน ยังไม่มีข้อสรุปในตอนนี้ ยืนยันเดินหน้าโครงการ และเงินจะถึงมือประชาชนแน่นอน คาดว่าจะสามารถแจกเงินได้ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ยืนยันจะดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามเรื่องที่ยังดำเนินการได้ช้าคือระบบที่จะใช้ในการแจกเงิน ซึ่งต้องตีกรอบให้ชัดเจนเพื่ออยู่ในกรอบเวลา และได้วางแผนเผื่อไว้แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วใช้หรือไม่ จุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดเช่นนั้น ขอให้รอฟัง ส่วนเรื่องร่าง พ.ร.บ. เงินกู้ จะเสร็จทันหรือไม่ ขอให้รอข้อสรุปจากคณะกรรมการชุดใหญ่
เมื่อถามว่า เงื่อนไขการแจกเงินจะเปลี่ยนหรือไม่นั้น จุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เปลี่ยนแต่อาจมีรายละเอียดปลีกย่อย เล็กน้อย ที่จะมีการหารือกัน ยืนยันว่า ไม่ได้ลดจำนวนเป้าหมายการแจกเงิน เมื่อถามอีกว่าจะมีการแบ่งแจกเงินเป็น 2 ก้อนหรือไม่ หรือแจกพร้อมกันทั้งประเทศ จุลพันธ์ กล่าวว่า ขอให้รอฟัง
เมื่อถามว่า หน่วยงานด้านเศรษฐกิจได้ตอบรับในเรื่องโครงการฯ ว่าอย่างไรบ้าง จุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้ถกเถียงตรงนั้น แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ เสียงค่อนข้างตรงกันว่าต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเหมาะสม พร้อมย้ำว่า ไม่ได้ขัดต่อข้อกฎหมายแต่อย่างใด
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่า มีแหล่งเงินของโครงการแล้วใช่หรือไม่ จุลพันธ์ กล่าวว่า ใช่ครับ แต่ยังไม่สามารถตอบรายละเอียดได้ แต่มีช่องทาง เมื่อถามย้ำว่า อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้มั่นใจว่าจะแจกเงินได้นั้น จุลพันธ์ กล่าวว่า ดูจากข้อกฎหมาย และรายละเอียดทั้งหมดแล้ว มองว่าอยู่ในกรอบที่สามารถดำเนินการได้ และได้รับการสนับสนุนจากความคิดเห็นต่าง ๆ ทำให้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าสามารถดำเนินการโครงการได้โดยไม่มีข้อติดขัด
เมื่อถามว่า การออกกฎหมายกู้เงินนั้นจะอยู่ในสภาวะเสี่ยงหรือไม่ จุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องหาทางปิดจุดอ่อนเรื่องที่คนสงสัย ทำให้โครงการเดินหน้าได้