ที่ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านแม่กลางหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายนิติพล ผิวเหมาะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อและที่ปรึกษานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ นายชินกร แก้ววิทยาคม ผู้สมัคร ส.ส.จากจังหวัดเชียงราย ชาวเผ่าลาหู่และลั้ว, นายสุนทร มารีการุณย์กิจ ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ ชาวกะเหรี่ยง, นายอนุพันธ์ หาญประดับทอง ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชาวกระเหรี่ยง

นายยุทธนา มดแดง ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดอุทัยธานี ชาวกะเหรี่ยง, นายอภิสิทธิ์ สายธารอิสระ ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดตาก ชาวกะเหรี่ยง, นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชาวม้ง, นายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชาวกะเหรี่ยง, และนายปรีชา ปัญญาเยาว์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชาวไทใหญ่ ร่วมเวทีเปิดตัว ส.ส.และทีมงานปีกชาติพันธุ์ และนโยบายด้านชาติพันธุ์ของพรรรคอนาคตใหม่

นายปิยบุตรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านการเกษตรและที่ดินในการปลดและปรับหนี้ ส่งเสริมราคาพืชผลให้สูงขึ้น หรือนโยบายที่จะให้ยุติการจับกุมและดำเนินคดีกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกับเขตป่าชั่วคราว, ยุติการไล่กลุ่มชาติพันธุ์ออกจากป่า, ยุติข้อพิพาทระหว่างประชาชนตามป่ากับเจ้าหน้าที่เขตอุทยานฯไว้ชั่วคราว, ออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่หมดสภาพป่า, แก้กฎหมายที่ซ้ำซ้อนระหว่างส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นทั้งกฎหมายป่าและกฎหมายของกรมอุทยานฯ

จากนั้นจะพรรคอนาคตใหม่จะทำเขตวัฒนธรรมพิเศษครอบคลุมพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัย สร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและความเข้มแข็งให้ชุมชน ส่วนการโต้แย้งเรื่องสิทธิระหว่างพื้นที่อุทยานแห่งชาติกับที่อยู่ของคนในชุมชนนั้น พรรคอนาคตใหม่จะผลักดันให้มีการตรวจสอบโดยคุ้มครองสิทธิและคำนึงถึงวัฒนธรรมชุมชน เพื่อจากนี้ไปเอกสารสิทธิ์จะไม่เป็นหลักฐานเดียวที่ใช้ในการพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรมอีกต่อไป แต่จะต้องพิจารณาเรื่องวัฒนธรรมในชุมชนด้วย

“พรรคอนาคตใหม่จะตั้งสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ตามข้อเสนอของภาคประชาสังคม โดยมีหน้าที่เสริมสร้างกระบวนการแสดงออกอย่างมีส่วนร่วมโดยตรง เสนอข้อกฎหมายและแนวพัฒนาเศรษฐกิจที่เอื้อต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่สำคัญคือการกำหนดแนวางนโยบายที่ดินทำกินเพื่อการเกษตรเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ร่วมทรัพยากรในพื้นที่ให้เหมาะสมและยืดหยุ่นกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยร่วมกับป่า”

นายปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า พรรคอนาคตใหม่ มีคณะทำงานเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วประเทศ และเข้ามาเป็นตัวแทน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 4 คน เป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่มีปีกการทำงานกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงยังมีผู้สมัครแบบเขตเป็นกลุ่มชาติพันธุ์อีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า พรรคจริงจังจะให้กลุ่มชาติพันธุ์เข้าไปในสภา เพื่อเป็นปากเสียงและเป็นผู้แทนของชาติพันธุ์ ในการเสนอและออกกฎหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมและความเท่าเทียมแก่พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์

ด้านนายนิติพลกล่าวว่า ตนก็เป็นคนชาติพันธ์ุที่มาทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเป็นผู้ทำนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพสัตว์ ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชาติพันธุ์ จึงเข้าใจเป็นอย่างดีถึงการขาดโอกาสและต้นทุนที่คนชาติพันธุ์มีน้อยกว่าคนพื้นราบ ดังนั้นตัวเองจึงสร้างนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ เพื่อหวังส่งต่อโอกาสให้แก่คนชาติพันธุ์บนภูเขา เพื่อให้มีรายได้และโอกาสในชีวิตที่ดีเหมือนที่ตัวเองเคยได้รับ

“จากการลงพื้นที่ดอยอินทนนท์ทำให้เห็นว่าพื้นที่นี้มีทรัพยากรที่สมบูรณ์ มีทัศนียภาพสวยงาม เหมาะที่จะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงชุมชนเพื่อสร้างโอกาสและรายได้ให้แก่พี่น้องชาวชาติพันธุ์ โดยเฉพาะการสร้างอาชีพที่เหมาะแก่วิถีชีวิตให้แก่คนชาติพันธุ์เช่น ไกด์นำเที่ยวในพื้นที่ของตัวเอง และอาชีพสัตวแพทย์ สอดคล้องตามนโยบายของพรรคที่ต้องการยกระดับคุณภาพของสวัสดิภาพสัตว์ เป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับคนและแก้ปัญหาเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ รวมถึงอนุรักษ์ความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยร่วมกับป่าย่อมมีความรู้ความสามารถในด้านนี้” ที่ปรึกษาด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม พรรคอนาคตใหม่กล่าว