ไม่พบผลการค้นหา
'ปกรณ์วุฒิ' เผยการอภิปรายงบฯ 67 จะเข้มข้นไม่ต่างจาก 4 ปีที่ผ่านมา แจงไม่ได้มีเนื้อหาอภิปรายเกี่ยวข้องกับ 'ทักษิณ' ถ้าจำเป็นค่อยพูด ย้ำปีหน้ารัฐบาลต้องส่งเอกสารงบเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์

วันที่ 2 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยขอฝ่ายค้านอย่าอภิปรายพาดพิง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

โดย ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน เชื่อว่า สส.ทุกคนทราบวาระจำเป็น หากเกี่ยวข้องที่จะต้องกล่าวถึงจึงค่อยพูด หากไม่มีวาระเกี่ยวข้องก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอ่ยถึงบุคคลภายนอก ส่วนการจัดสรรเวลาอภิปรายฝ่ายค้านได้แบ่งเวลาให้พรรคการเมืองพรรคเล็กด้วย ซึ่งวันนี้มีพรรคประชาธิปไตยใหม่เข้าร่วมหารือ และเตรียมพร้อมการอภิปรายร่วมกับวิปฝ่ายค้าน ในเบื้องต้นพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการจัดสรรเวลา 200 นาที พรรคไทยสร้างไทย 60 นาที พรรคเป็นธรรม 20 นาที ส่วนพรรคเล็ก เช่น พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้สัดส่วนอภิปรายพรรคละ 10 นาที

สำหรับธีมการอภิปรายของฝ่ายค้านในพรรคก้าวไกลได้ประกาศไปแล้วว่า 'วิกฤติแบบใดจึงจัดงบแบบนี้' เนื่องจากรัฐบาลได้อ้างถึงสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศอยู่ในวิกฤตที่จะต้องกู้เงินมาดำเนินโครงการต่างๆ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต แต่การจัดสรรร่างกฎหมายงบประมาณได้สะท้อนให้เห็นว่าประเทศกำลังวิกฤตจริงหรือไม่ ซึ่งเท่าที่เห็นไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการจัดสรรงบประมาณที่แตกต่างจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ปกรณ์วุฒิ ชี้ว่า ความผิดปกติของร่างกฏหมายงบประมาณปี 2567 คือความปกติที่รัฐบาลยังจัดสรรงบประมาณเหมือนเดิม เหมือนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในการอภิปรายทั้ง 3 วันได้วางไว้ วิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง-วิกฤติสิ่งแวดล้อม-วิกฤติความเหลื่อมล้ำ -วิกฤติทรัพยากรมนุษย์ เด็ก เกิดใหม่น้อย 

ทั้งนี้ ยังเผยว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีความเข้มข้นไม่ต่างจากการอภิปรายงบประมาณของพรรคก้าวไกลตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าการอภิปรายจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยอ้างอิงจากการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาไม่มีการประท้วงวุ่นวาย 

"ทางรัฐบาลก็ออกมาบอกเองว่าไม่ได้กังวลอะไรและไม่ได้จัดองครักษ์เป็นพิเศษ คิดว่าก็ถูกแล้วที่ผ่านมา 4 ปีเราเห็นว่าการอภิปรายพระราชบัญญัติงบประมาณเป็นไปด้วยความราบรื่นมาโดยตลอดเราก็พูดถึงงบประมาณล้วนๆ" ปกรณ์วุฒิ กล่าว 

ปกรณ์วุฒิ ยังท้วงติงกรณีรัฐบาลให้เวลา สส.เพียง 8 วัน ในการศึกษาร่างงบประมาณ ยอมรับว่ากระทบต่อการทำงาน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหา และได้ใช้ช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ศึกษาร่างกฏหมาย โดยคาดหวังว่าในการพิจารณากฎหมายงบประมาณครั้งหน้า ขอ ครม. ยึดถือว่าการพิจารณาร่างกฏหมายงบประมาณเป็นเรื่องของสภาฯ การตั้งปฏิทินพิจารณาครั้งหน้า ควรจะมีการพูดคุยกันก่อนเพื่อกำหนดวันอภิปรายร่วมกัน เชื่อว่าจะสามารถทำให้พิจารณาแล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 105 วันตามกฎหมายได้ 

โดยในวันนี้ประธานวิปฝ่ายค้านได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเข้ามาให้ข้อมูล สาระสำคัญ และเหตุผลในการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ ในที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน 

ทั้งนี้ หลังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ปกรณ์วุฒิ ย้ำถึงความสำคัญของไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ร่างกฏหมายงบประมาณ ที่จะทำให้สะดวกแก่การวิเคราะห์ข้อมูล จึงขอให้สำนักงบประมาณส่งไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ร่างกฎหมายงบประมาณให้สภาฯ

"วิปฝ่ายค้านมีมติที่จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ยืนยันว่าการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จะมีการส่งไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ให้ สส. และเผยแพร่ให้กับประชาชน" 

โดยข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มาให้ข้อมูลใหม่พรรคการเมือง ฝ่ายค้าน ทำให้ฝ่ายค้านสามารถนำไปเพิ่มเติมการอภิปรายในภาพรวมของเศรษฐกิจและการใช้งบประมาณอย่างมีนัยยะสำคัญของกระทรวงต่างๆ ได้ 

ปกรณ์วุฒิ ยอมรับว่าในการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณครั้งนี้ อาจจะมีบ้างที่จะมีผู้อภิปรายสาระเชื่อมโยงกับการเตรียมออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านของรัฐบาล เนื่องจากเป็นภาระของฝ่ายค้านที่จะต้องติดตามในอนาคต 

และหลังจากการประชุมวิปฝ่ายค้านในช่วงบ่ายจะสรุปรายชื่อ สส.ฝ่ายค้าน จัดลำดับคิวการอภิปราย สำหรับสัดส่วนกรรมาธิการพิจารณาร่างกฏหมายงบประมาณปี 2567 จะมีจำนวน 72 คนเท่าเดิม โดยสัดส่วนของฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลมี 16 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 และพรรคไทยสร้างไทย 1