นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ในเชียงใหม่และหลายจังหวัดในภาคเหนือ ที่เกิดต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงจนถึงผู้สูงอายุเดือดร้อนแสนสาหัส กระทบต่อชีวิตเรือนแสนหรืออาจนับล้าน คุณภาพอากาศแย่ติดลำดับโลก และยังไม่รู้ว่าลมหายใจไร้ PM2.5 จะกลับมาเมื่อใด
สัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นท่าน นายกรัฐมนตรี กำชับให้ทางจังหวัดแก้ปัญหาไฟป่าและคุณภาพอากาศ ซึ่งตนเห็นใจพี่น้องชาวเหนือเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเสนอให้รัฐบาลได้ระดมทรัพยากรและสรรพกำลังและเพิ่มมาตรการเป็นสองเท่าในการจัดการดับไฟเพื่อลดฝุ่น PM2.5 โดยเร็ว โดยตนมีข้อเสนอ 4 ข้อดังนี้
1.เอ็กซเรย์พื้นที่และจุดไฟไหม้หรือฮอตสปอตในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อระบุตำแหน่งของหมู่บ้าน ตำบล ป่า หรือเขตอุทยาน อีกทั้งเพื่อให้ทราบว่าไฟเริ่มไหม้และเกิดมานานเพียงใด
2.กำหนดผู้รับผิดชอบ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้ว่าฯ เพื่อรับผิดชอบในพื้นที่ของตน ส่วนกระทรวงทรัพยากรฯ ให้ดูแลดับไฟในพื้นที่ป่าและเขตอุทยาน และต้องประเมินความสำเร็จในแต่ละพื้นที่
3.ควรจัดตั้งวอร์รูมส่วนหน้าในภาคเหนือและมอบรองนายกรัฐมนตรีไปบัญชาการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และเพิ่มงบประมาณในการซื้อวัสดุ เครื่องมือ ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร และประชาชนที่ร่วมในการดับไฟ
4.ส่วนที่อ้างว่ามีจุดไฟไหม้ในประเทศเพื่อนบ้านที่ฝุ่นควันลอยข้ามมาในไทยนั้น รัฐบาลควรมอบให้รัฐมนตรีติดต่อประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอความร่วมมือแก้ปัญหาในประเทศของเขาโดยเร็ว ไม่ควรให้เฉพาะกรมควบคุมมลพิษไปแก้ปัญหา เนื่องจากเรื่องนี้เร่งด่วนและต้องประสานงานระดับประเทศ
"ขอวิงวอนรัฐบาลได้ตระหนักถึงความทุกข์แสนสาหัสของชาวบ้านที่ต้องหายใจเอาฝุ่นพิษวันแล้ววันเล่าโดยไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้หายใจเอาอากาศสะอาดเมื่อใด คิดเสียว่าเขาคือลูกหลานและญาติของพวกท่าน เรื่องนี้เร่งด่วนมากและตนเห็นว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องแก้ไขด่วน" นายนพดล ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :