ไม่พบผลการค้นหา
ช็อตต่อไปของคดี 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญลงดาบ ด้วยมติ 7 ต่อ 2 เสียง ให้ 'ธนาธร' หลุดจาก ส.ส. เพราะถือหุ้นใน 'วีลัค มีเดีย' บริษัทที่ประกอบกิจการสื่อระหว่างลงรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่า ในสัปดาห์หน้าสำนักงาน กกต.จะชงเรื่องเข้าบอร์ด กกต.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาขั้นตอน และวิธีการดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจ กรณีที่มีผู้กล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กระทำการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง 

"ซึ่งจะรวมถึงการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในการประชุม กกต.สัปดาห์ต่อไป"

ผลัก 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' เข้าสู่ Red zone ของจริง!

เนื่องจากมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ 

ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนดยี่สิบปี

ฟันธงได้เลยว่า 'ธนาธร' ต้องสู้ถึงฎีกา เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ กกต.ไม่มีทางเลือก 

นอกจากต้องส่งคดีของ 'ธนาธร' ต่อไปยังศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองชี้ขาด


ธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญ 7619568967680_o (1).jpg

24 ชั่วโมง หลังคำวินิจฉัยสอยร่วง ส.ส.

'ธนาธร' ให้สัมภาษณ์ถึงการต่อสู้ว่า จะทำให้ดีที่สุดทุกคดี เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นคดีที่ใครเป็นผู้ฟ้อง เราพร้อมสู้อย่างเต็มที่ 

เขาไม่ได้กลัว หากผลลัพธ์การต่อสู้ทำให้ "ติดคุก"

"ผมไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่มีอภิสิทธิ์ แต่ถ้าจะเดินหน้าประเทศต่อไป ก็ขอเสนอแนวทางไทยแลนด์ 3D ทำให้ประเทศกลับมาเป็นประชาธิปไตย ลดบทบาทกองทัพและยุติอำนาจรวมศูนย์กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น มีบางคนบอกว่าถ้าคุณทำดีจะมีอายุอยู่ถึง 90 หรือ 100 ปี แต่ผมไม่สนใจอายุขัย ไม่สนใจว่าจะจบสวยหรือไม่ ถ้าผมพูดความจริงยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องจบชีวิตในคุกในตะรางก็ภูมิใจที่ได้สร้างสังคมที่เท่าเทียมส่งต่อให้ลูกหลาน และภูมิใจที่ชีวิตอาจจบไม่สวย แต่ไม่เลียบูตทหารแน่ๆ"

นอกจาก คดีถือหุ้นสื่อ ซึ่งโยงไปถึงคดีอาญาเฉพาะตัว ยังมีคดีที่เกี่ยวกับตัว 'ธนาธร' กับพรรคอนาคตใหม่ คือกรณีเงิน 191 ล้านบาท ที่ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ไปดำเนินกิจกรรมทางการเมือง

แต่ปรากฏว่า ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560  ในมาตรา 62 ที่กำหนด "รายได้ของพรรคการเมือง" 7 ข้อ 

1.เงินทุนประเดิมพรรค 

2.เงินค่าธรรมเนียมและค่าบํารุงพรรคการเมืองตามที่กําหนดในข้อบังคับ 

3.เงินที่ได้จากการจําหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรคการเมือง 

4.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง

5.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค 

6.เงินอุดหนุนจากกองทุน 

7.ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง

เมื่อไม่มีปรากฏเรื่อง "เงินกู้" เป็นรายได้ของพรรคการเมือง ในมาตรา 62 ทั้ง 7 ข้อ ดังนั้น ต้องตีความว่า "เงินกู้ 191 ล้าน" ของธนาธร จะเข้าข่ายการบริจาคเงินหรือไม่

กกต.จึงมีมติเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2562 ก่อนหน้าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดีหุ้นวี - ลัค 1 วัน โดยให้ พรรคอนาคตใหม่ เร่งส่งเอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าว

เป็นการลงมติในจังหวะชุลมุน ที่พรรคอนาคตใหม่ แจ้งความเอาผิด 7 กกต. ฐานข้อหาประพฤติมิชอบ อ้างเหตุใช้กระบวนการไต่สวนไม่ชอบก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุสงสัยว่ามีการเร่งรัดคดีทำให้เกิดความเสียหาย การถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ และเกิดเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อนายธนาธร ต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ

อนาคตใหม่ อยู่ไม่เป็น ธนาธร

'ธนาธร' กล่าวถึงคดี "เงินกู้" ว่า คดีที่ตนให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงินก็ไม่ได้กังวล เพราะถ้าไปถามนักบัญชีหรือนักกฎหมายที่ไหน จะได้คำตอบว่าเงินกู้เป็นหนี้สินอยู่ในงบดุล "ไม่ใช่รายได้"

"ไม่อยู่ในงบกำไรขาดทุน จึงไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และมองไม่ออกว่าจะขัดกฎหมายหรือขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร เราอยากทำงานการเมืองที่โปร่งใส อยากให้สาธารณชนรับทราบ จึงไม่แน่ใจว่าการทำเช่นนี้จะผิดกฎหมายได้อย่างไร ขณะนี้ได้รับเอกสารแจ้งจาก กกต.ให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมแล้ว แต่ได้ตอบกลับทาง กกต.ด้วยวาจาไปก่อนว่า ขณะนี้ทางพรรคงานเยอะมากทำให้ไม่ทัน จึงขอขยายเวลาการส่งเอกสารออกไป"

อย่างไรก็ตาม หาก กกต.ตีความว่า 191 ล้าน เป็น "เงินบริจาค ในกฎหมายพรรคการเมือง 2560 ในมาตรา 66 มีกฎต้องห้ามว่า ห้ามบุคคลใดบริจาคเงินให้พรรคการเมือง มูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปี 

หากฝ่าฝืน มีอัตราโทษ ระบุในมาตรา 124 ว่า ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี

ขณะที่ ฝั่งพรรคการเมืองจะถูกลงโทษด้วย ตามมาตรา 125 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนด 5 ปี และให้เงิน ทรัพย์สินที่มูลค่าเกิน 10 ล้าน ตกเข้าสู่กองทุนพรรคการเมือง

โดนทั้ง คุก ทั้งปรับ และถูกตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้งยวง 5 ปี 

ธนาธร-พรรคอนาคตใหม่ธนาธร-ปิยบุตร

ยังไม่หมด! 

พรรคอนาคตใหม่ ยังเผชิญเหตุคดียุบพรรคอย่างน้อยๆ อีก 4 คดี 

คดีที่ 1 นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ วันที่ร้อง 8 มี.ค. 2562 ขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากการกระทำของนายธนาธร หัวหน้าพรรค และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะมีการใช้วาทกรรมว่าจะสานต่อภารกิจของคณะราษฎร 2475 ให้สำเร็จลุลวง โดยไม่ได้ขยายความให้ชัดเจนว่าการสานต่อภารกิจนั้น รวมถึงการยังคงซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่หรือไม่

คดีที่ 2 ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม วันที่ร้อง 29 มี.ค. 2562 จากกรณีที่นายธนาธร ให้สัมภาษณ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ โดยยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.ให้ยุบพรรคการเมือง 

คดีที่ 3 นายสุรวัชร สังขฤกษ์ ประธานกลุ่มการเมืองภาคประชาชน วันที่ร้อง 1 เม.ย. 2562 เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วรรคหนึ่งและ วรรคสอง เข้าข่ายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.ให้ยุบพรรคการเมือง 

คดีที่ 4 นายณฐพร โตประยูร ร้องศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรับคำร้องเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2562 กรณีการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร นายปิยบุตรใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยคำร้องยังมีการโยงอนาคตใหม่ถึงอิลูมินาติ องค์กรลับอยู่เบื้องหลัง การล้มล้างสถาบันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 

ขณะที่ 'ปิยบุตร' กล่าวถึงมรสุมคดียุบพรรคอนาคตใหม่ว่า "เราไม่ได้กังวลอะไรเพราะเราคิดไว้ตั้งแต่ตอนตั้งพรรคแล้วว่า ไม่ช้าก็เร็วเราคงเจอมรสุมแบบนี้ เราพร้อมสู้ทุกคดี จาก 25 คดีตอนนี้หมดไป 1 คดี เหลืออีก 24 คดี หากจะมีมาเพิ่มอีกก็พร้อมสู้ ผมเห็นว่าหนังม้วนเก่าที่ฉายซ้ำๆมาหลายรอบแล้ว หมดเวลาฉายหนังม้วนเก่า ควรปิดกองถ่ายได้แล้ว ตกลงประเทศนี้จะลงทุนเผาป่าเพื่อฆ่าหนูตัวเดียวจริงๆหรือ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง