พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า รับเชิญเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) ที่จัดขึ้นโดย 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย, สมาคม อบต. แห่งประเทศไทย และสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำข้อเสนอว่าด้วยการแก้ไข-ยกเลิกกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารของ อปท. เพื่อให้รัฐบาลพรรคก้าวไกลในอนาคตได้พิจารณาผลักดันต่อไป
โดยในส่วนของพรรคก้าวไกล มีแกนนำพรรคที่เข้าร่วม ประกอบด้วย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ วรภพ วิริยะโรจน์, สุรเชษฐ์ ประวีณวงค์วุฒิ ส่วนทางคณะก้าวหน้ามี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, ไกลก้อง ไวทยการ ผู้อำนวยการนโยบายคณะก้าวหน้า ร่วมรับฟังข้อเสนอจากการประชุมในวันนี้
โดยประเด็นข้อกฎหมายและระเบียบที่มีการรวบรวมขึ้นนำเสนอในวันนี้ แบ่งเป็น 3 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย 1) กฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา อปท. ถูกจำกัดอำนาจภายใต้การควบคุมของส่วนกลางอย่างเข้มงวด ตลอดจนถูกแทรกแซงจนไร้ความเป็นอิสระ 2) กฎหมายและระเบียบด้านการเงินการคลัง ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดและข้อห้ามต่างๆ ที่เกี่ยวกับการหารายได้และการใช้งบประมาณของ อปท. รวมถึงเบียดบังเงินส่วนที่ อปท. ควรจะได้รับ และ 3) กฎหมายและระเบียบด้านการบริหารงานบุคคล เช่น กรณีคำสั่ง คสช. ที่ 8/2560 ที่แทรกแซงกระบวนการบริหารบุคคลของ อปท. โดยตรงอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงระเบียบอื่นๆ ที่จำกัดการจ้างงาน และการตั้งกองต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
ในส่วนของวรภพ วิริยะโรจน์ ได้ขึ้นนำเสนอประเด็นการถ่ายโอนภารกิจ งบประมาณ และบุคลากร จากส่วนกลางมาให้ อปท. โดยระบุว่าการถ่ายโอนเหล่านี้ นอกจากจะต้องแก้ไขกฎหมายร่มใหญ่อย่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ 2542 แล้ว ยังจะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ. อีก 28 ฉบับ ที่ครอบคลุมการบริหารงานด้านต่างๆ ของ อปท. ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทะเบียนราษฎร์ เศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อย ที่ดินและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่ก็มีบางภารกิจที่รัฐบาล สามารถใช้กลไกอำนาจฝ่ายบริหาร ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจมาให้ อปท. ได้เลยระหว่างที่รอการแก้ไขกฎหมายทั้ง 28 ฉบับ
ด้านชัยธวัช ระบุว่าการประชุมร่วมกันในวันนี้ ทำให้พวกเราทั้งพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ได้ฟังในสิ่งที่เป็นความต้องการของชาวท้องถิ่นหลายเรื่อง ซึ่งทั้งพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าต้องการเห็นอยู่แล้ว
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลเข้าใจดีว่าการแก้ไขและยกเลิกกฎหมาย ปฏิรูประบบราชการให้มีการกระจายอำนาจ มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งหากเป็นกฎหมายในระดับ พ.ร.บ. ย่อมทำไม่ได้ภายใน 100 วันแน่ๆ แต่บรรดาระเบียบและกฎกระทรวงต่างๆ สามารถทำได้ใน 100 วันแน่นอน
“นี่เป็นเป้าหมายที่เรามีตรงกัน เราคาดหวังว่านโยบายการกระจายอำนาจจะเป็นบิ๊กแบง ที่จะระเบิดศักยภาพภายในของสังคมไทยครั้งใหญ่ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน คุณภาพชีวิตและความเจริญทางเศรษฐกิจ ทลายเพดานที่กดทับศักยภาพของสังคมไทยไว้ นี่คือเป้าหมายที่พรรคก้าวไกลอยากจะทำงานร่วมกันกับทุกท่าน” ชัยธวัชกล่าว