สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุหลังประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า พรรคฝ่ายค้านได้พิจารณาแล้วว่า จะสนับสนุนญัตติทั้ง7 ญัตติของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งแต่ละพรรคต้องไปพูดคุยกับสมาชิกพรรคของตัวเองด้วย เหตุผลที่รับร่างของภาคประชาชนของไอลอว์ เพราะเป็นร่างที่มาจากประชาชน ซึ่งส.ส.ทุกคนก็เป็นตัวแทนของประชาชน และร่างมีหลักการและเหตุผลที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับร่างของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งร่างของภาคประชาชนไม่มีส่วนใดผิดกฎหมาย และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขทั้งฉบับสามารถทำได้ตามอำนาจของรัฐสภา ดังนั้นรัฐสภาคงจะต้องให้การยอมรับเสียงของประชาชน 

ด้าน ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การลงมติในวันที่17-18 พ.ย.นี้ จะเป็นการลงมติเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ ปัจจัยสำคัญก็อยู่ที่ท่าทีของส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งการตัดสินใจของส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและส.ว. เชื่อว่าก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งความจริงใจและเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีเป็นตัวชี้ขาดด้วยในวันที่17-18 พ.ย. และเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรผ่านทั้ง7ฉบับ ไม่ใช่แค่ฉบับใดฉบับหนึ่ง หากผ่านแค่ 2 ฉบับ อาจจะดูเป็นการลูบหน้าปะจมูก และไม่ให้เกียรติประชาชน 

ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ...เป็นร่างที่จะนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการออกเสียงประชามติ สำหรับรัฐธรรมนูญที่จะยกร่างแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลไปยื่นเข้าสภาแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงจะยกร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าไปประกบด้วย แต่มีเนื้อหาที่ต่างจะของรัฐบาลคือ ต้องมีการรณรงค์เรื่องการของรัฐธรรมนูญ ให้สิทธิทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง และ การใช้สิทธิของประชาชนในการทำประชามติของประชาชนให้ใช้สิทธิอย่างกว้างขวาง จึงมีมติว่าควรจะมีการเปิดให้ทำประชามติล่วงหน้า หรือ ต่างพื้นที่ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งภายในสัปดาห์นี้จะนำเข้าสู่สภา เพื่อประกบกับร่างของรัฐบาล