ไม่พบผลการค้นหา
"ส.ส.ภาคใต้" หนุนขุดคลองไทย เดินหน้าผลักดันสภาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญศึกษา วอนรัฐบาลกำหนดเป็นนโยบาย "ทรงกลด" ยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ ย้ำผลศึกษาเป็นรูปธรรมใน 6 เดือน เดินหน้าขุดภายใน 1 ปี "วันนอร์" ชี้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย หวั่นกลับไปสู่จุดเดิม-เสียเวลาเปล่า

พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะนายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา จัดประชุมกรรมการสมาคมฯ เพื่อรับทราบความคืบหน้าการศึกษาโครงการคลองไทย พร้อมรับฟังมุมมองและความคิดเห็นจาก ส.ส.ภาคใต้ของพรรคการเมืองต่างๆ โดยมีส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาชาติ พลังท้องถิ่นไท พลังชาติไทยเข้าร่วม อาทิเช่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พลตรีทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท 

พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวว่า สมาคมฯ เสนอโครงการไปยังรัฐบาลเมื่อเดือนธันวาคม 2560 กระทั่งรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ไปศึกษาเมื่อตอนต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่ง สศช. อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่ คาดว่าผลการศึกษาจะออกมาในเร็ววันนี้ และเชื่อว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามสมาคมฯต้องการให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อนำไปสู่การเดินหน้าโครงการนี้ในอนาคต

ในที่ประชุมได้นำเสนอแนวทางให้ ส.ส. ภาคใต้ฝ่ายรัฐบาลที่ได้เป็นรัฐมนตรีผลักดันให้โครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ขณะที่ ส.ส.ในภาคใต้ทั้งหมดต้องรวมตัวกันและเสนอเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาคลองไทยเหมือนการศึกษาของ ส.ว.ในอดีต นอกจากนี้ ส.ส.ภาคใต้ต้องช่วยหาเสียงสนับสนุนจากส.ส.ภาคอื่นๆเพื่อนำไปสู่การลงมติร่วมกันในอนาคต

พล.ต.ทรงกลด กล่าวว่า พรรคพลังชาติไทยได้เสนอนโยบายคลองไทยไปยังรัฐบาลแล้ว โดยเสนอผ่านไปยังพรรคพลังประชารัฐเพื่อกำหนดร่วมกันเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นได้พูดคุยกับพล.อ.พงษ์เทพ ตั้งเป้าเดินหน้าศึกษาโครงการคลองไทยให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือน และเดินหน้าขุดภายใน 1 ปี หรือภายในกลางปีหน้า หวังว่าจะประสบความสำเร็จด้วยการดำเนินการผ่านการทำประชามติ นำพลังของประชาชนมาใช้ขับเคลื่อนและเดินหน้าโครงการนี้ ซึ่งไม่มีใครขวางพลังของประชาชนได้

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา และเป็นโครงการมีผลประโยชน์จำนวนมาก สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของการเดินเรือพาณิชย์โลก แต่หากโครงการนี้ไม่ได้สร้างความเข้าใจและไม่ได้ความร่วมมือจากภาครัฐ ประชาชน และฝ่ายนิติบัญญัติ อาจนำไปสู่จุดเดิมและเสียเวลาเปล่า

เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง จึงอยากเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆที่พรรคการเมือง ภาคประชาชน และรัฐบาลจับมือร่วมกัน ส่วนอุปสรรคจากคนที่เสียประโยชน์และประเทศเพื่อนบ้านที่เสียประโยชน์นั้น หากคนไทยมีความมุ่งมั่นและมีข้อมูลรอบด้าน ย่อมเดินหน้าโครงการนี้ได้ และหากโครงการสามารถเกิดขึ้นได้จริง จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทั่วโลกที่จะเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น 

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลหากมีการเวนคืนที่ดินทั้งสองฝั่งของประชาชน โดยจะต้องมีความชัดเจนในการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ทั้งในเรื่องของเงินเยียวยา และความมั่นคงในอาชีพ การดำเนินชีวิต โดยจะทำอย่างไรไม่ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเกิดความรู้สึกที่แย่กว่าเดิม 

อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่าในฐานะตัวแทนประชาชน จะต้องใช้ช่องทางฝ่ายนิติบัญญัติในการเดินหน้าโครงการนี้ โดยจะต้องผลักดันให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ทั้งนี้หากรัฐบาลให้ความเห็นชอบเรื่องนี้ กระแสความมั่นคงด้านต่างๆ จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะความมั่นคงทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

ล่าสุด พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย ได้เสนอญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรทตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยญัตติปกติดังกล่าวต้องการให้ที่ประชุมพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาในเรื่องการขุดคลองไทยเส้น 9A ตามข้อบังคับการประชุมสภา