คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวคำถวายสัตย์ปฎิญาณ ยืนยันว่ากระบวนการดังกล่าว ฝ่ายค้านไม่ต้องการล้มล้างรัฐบาลหรือ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ จึงต้องร่วมกันเป็นต้องหาทางแก้ไข และเมื่อรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ใช้สภาผู้แทนราษฎรในการแก้ปัญหาร่วมกัน เราจึงเสนอทางออกให้ใช้ ม.152 เพื่อปรึกษาหารือกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพรรคฝ่ายค้าน
"ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญมาแล้วหลายครั้ง แต่ตอนนี้ไม่มี ม.44 แก้สิ่งที่ตนเองทำผิดรัฐธรรมนูญ จึงต้องใช้ระบบสภาผู้แทนราษฎรในการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นวิถีทางที่ชอบและถูกต้อง จึงควรให้กระบวนการนี้ดำเนินไป" ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าว
ส่วนที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าอาจจะบรรจุญัตตินี้เข้าสู่วาระการประชุมไม่ทันเนื่องจากจะมีการจัดประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน มองว่า ถ้าเห็นเรื่องนี้เป็นปัญหา และมีความเชื่อมั่นในรัฐสภาจริง การประชุมรัฐสภาอาเซียนก็จะไม่เป็นอุปสรรค สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการหาวันและเวลาในการจัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหารือในเรื่องนี้ได้
ส่วนการที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ บอกว่าหากนายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ถามสดของพรรคฝ่ายค้าน จะพิจารณาถอนญัตตินี้ นั้น ยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของการยื่นญัตติ เพราะต้องการช่วยรัฐบาลแก้ปัญหานี้ แต่เป็นการหารือร่วมกัน ควรเห็นเจตนาดีของฝ่ายค้านในเรื่องนี้ จึงขอให้รัฐบาลทบทวนใหม่ ตัดอคติทิ้งแล้วจะมองเห็นว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอ จะเป็นทางออกให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
พร้อมกันนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ทราบกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ หลังนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แยกตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าว "ขอตรวจสอบดูก่อน" เพราะหากพูดไปจะกลายเป็นการกล่าวหา