ไม่พบผลการค้นหา
มหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เตือนฟิลิปปินส์ระวังเดินสู่กับดักหนี้ของจีน หลังลงนามพัฒนาโครงการต่างๆ ร่วมกับจีนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง ABS-CBN ของฟิลิปปินส์ในระหว่างเยือนฟิลิปินส์เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อประเด็นเรื่องการกู้ยืมเงินจากจีนในการลงทุนโครงการพัฒนาต่างๆ ว่า "หากไม่สามารถจ่ายคืนได้ คุณในฐานะลูกหนี้จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าหนี้จีน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่มาเลเซียระมัดระวังเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา" 

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาฟิลิปปินส์ได้สอบสวนเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆ ที่เสนอโดยจีนในโครงการที่ประธานาธิบดีดูแตร์เตได้ลงนามตกลงเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกับจีน ซึ่งที่่ผ่านมาจีนปล่อยเงินกู้ให้แก่ฟิลิปปินส์กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในช่วงการเยือนปักกิ่งเมื่อปี 2016 ฟิลิปปินส์ได้ลงนามข้อตกลงกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการพัฒนาเขื่อนและระบบชลประทานในฟิลิปปินส์ 

นอกจากนี้นายมหาเธร์ยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องความกังวลต่อการเดินไปสู่กับดักหนี้จีนของประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า "การตกอยู่สภาวะ 'กับดักหนี้' เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศผู้ที่กู้ยืมเงินจากจีนมีความกังวลอย่างมาก แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประเทศผู้กู้สามารถจำกัดหรือต้องควบคุมอิทธิพลของจีนเอง"

ทั้งนี้ปัจจุบันในฟิลิปปินส์มีแรงงานชาวจีนกว่า 300,000 ที่เข้ามาทำงานในโครงการพัฒนาต่างๆที่ฟิลิปปินส์และจีนได้เซ็นต์สัญญาลงนามร่วมมือกันมานับตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่ประธานาธิบดีดูแตร์เตขึ้นครองอำนาจในฟิลิปปินส์ และต่อประเด็นดังกล่าว นายมหาเธร์เห็นว่า หากภายในประเทศมีแรงงานต่างชาติจำนวนมากอาศัยอยู่และมีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลแต่และประเทศจะต้องประเมินว่า เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่อย่างไร หรือควรจำกัดการเข้ามาของแรงงานต่างชาติ

ขณะที่เมื่อวานนี้ นายมหาเธร์กล่าวว่า มาเลเซียพร้อมไฟเขียวโครงการทางรถไฟชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียที่จีนจะเข้ามาลงทุน หากจีนเสนอราคาการก่อสร้างที่เหมาะสมให้กับทางมาเลเซีย ซึ่งที่ผ่านมามาเลเซียเห็นว่าข้อเสนอในครั้งแรกของจีนนั้นมีราคาสูงเกินไป ซึ่งจีนประเมินราคาก่อสร้างเอาไว้ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ภายใต้ยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง จีนได้เข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะโครงการเชื่อมต่อการคมนาคม และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งในลาว เมียนมา กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น

ที่มา asiaone / Nikkei Asian Review

ข่าวที่เกี่ยวข้อง