วันที่ 8 ส.ค. 2565 ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย ระดมพลชาวเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด’ ที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2565 พี่น้องประชาชนชาวเชียงรายและทั่วประเทศต่างเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยกลับมาแก้วิกฤตบ้านเมือง ด้วยความเชี่ยวชาญของพรรคเพื่อไทยที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ เราคิดได้และทำเป็น ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ‘พร้อมแล้ว’ ที่จะใช้เวลา 6 เดือนแรกหลังเป็นรัฐบาล รื้อถอนซากปรักหักพังของประเทศจากฝีมือการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้สร้างเอาไว้ให้คนไทยจมทุกข์มาตลอดระยะเวลา 8 ปี
ส่วนกรณีที่ ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความพยายามพูดย้ำ ซ้ำเรื่องเดิมว่าเพื่อไทยต้องการแลนด์สไลด์ เพื่อนำบุคคลสำคัญกลับมานั้น คงเป็นคำพูดที่ไม่มีราคามากนัก เพราะหากต้องการเพียงเท่านั้น พรรคเพื่อไทยคงไม่ต้องมีการวางแนวนโยบายแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ไม่ทิ้งละคนรากหญ้า กระจายอำนาจมายังประชาชน ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ Soft Power ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อการเกษตร เพื่อให้เกิดการวิเคราะห์แม่นยำและผลผลิตสูง ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบ Digital Transformation ครั้งใหญ่ และเตรียมคนไทยเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างแท้จริง ทั้งหมดเป็นแนวนโยบายเพียงบางส่วนเท่านั้นที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์
ธีรรัตน์กล่าวว่า การที่ ธนกร ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอำนาจสั่งการหรือส่งสัญญาณเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จากหาร 100 ให้เป็นหาร 500 นั้น และใส่ความว่าพรรคเพื่อไทยล่มองค์ประชุมสภาฯ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนนั้น ธนกรคงไม่รู้ว่า การแก้ไขและมีความพยายามเปลี่ยนวิธีการคิดคำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 อย่างชัดเจน และยังขัดหลักการทั้ง 4 ร่างที่เสนอรัฐสภาตอนแรก ซึ่งเสนอให้หาร 100 มาตั้งแต่ต้น การกระทำของรัฐบาลน่าสมเพชที่สุด ยอมแม้กระทั่งขัดมติตัวเอง แบบนี้คือทำให้กฎหมายกลับไปสู่หลักการเดิมที่เสนอรัฐสภาตอนแรก เป็นการกระทำที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย
“การพยายามเชื่อมโยงเอาบุคคลสำคัญ 2 คนมาอยู่ในหน้าข่าวตลอดเวลา เป็นการกระทำที่ไม่มีประโยชน์ หยุดการกระทำนี้ และหาทางลงจากอำนาจให้พล.อ.ประยุทธ์ได้แล้ว 8 ปีมากเกินพอแล้ว” ธีรรัตน์กล่าว